ดาวโจนส์ ปรับร่วง 482 จุด วิตกเฟดดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

05 ธ.ค. 2565 | 23:28 น.

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ปรับตัวร่วงลง 482 จุด นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 482.78 จุด หรือ 1.40% ปิดที่ 33,947.10 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 72.86 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 3,998.84 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 221.56 จุด หรือ 1.93% ปิดที่ 11,239.94 จุด

 

ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไปและเป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการและตัวเลขการจ้างงานที่ขยายตัวสูงกว่าคาดในเดือนพ.ย.
          

ทั้งนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 54.4 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

 


ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน พุ่งขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.6% โดยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
          

รายงานล่าสุดระบุว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 89% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะถึงจุดพีกที่ระดับ 4.984% ในเดือนพ.ค. 2566

 


หุ้นเทสลา ร่วงลง 6.37% หลังจากบริษัทประกาศแผนลดการผลิตรถยนต์รุ่น Model Y ที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้ลงกว่า 20% ในเดือนธ.ค. จากระดับของเดือนพ.ย. ทั้งนี้ การร่วงลงของหุ้นเทสลาเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ดิ่งลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2
          

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงเกือบ 4% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.74% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.47% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทรุดตัวลง 5.27% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.99%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเช่นกัน โดยแม้ว่าปกติแล้วราคาหุ้นธนาคารจะได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แต่หุ้นกลุ่มดังกล่าวก็มีความอ่อนไหวต่อความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้เสียและการชะลอตัวของยอดการปล่อยกู้ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซา ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 2.85% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 2.49% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.38% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 3.39%
          

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ