ดาวโจนส์ปิดร่วง 329.60 จุด วิตกดอกเบี้ยขาขึ้นฉุดเศรษฐกิจถดถอย

26 ก.ย. 2565 | 23:43 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงและเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) แล้วในวันจันทร์ (26 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 29,260.81 จุด ร่วงลง 329.60 จุด หรือ -1.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,655.04 จุด ลดลง 38.19 จุด หรือ -1.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,802.92 จุด ลดลง 65.00 จุด หรือ -0.60%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยลบจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. และปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนธ.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามคาด ก็จะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันถึง 4 ครั้งในการประชุมเดือนมิ.ย.,ก.ค.,ก.ย.และพ.ย.


นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความผันผวนในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของรัฐบาลอังกฤษ

 

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์เข้าสู่ภาวะตลาดหมีแล้วในวันจันทร์ เนื่องจากดัชนีทรุดตัวลงกว่า 20% จากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ปีนี้ ซึ่งเข้าเกณฑ์คำนิยามภาวะตลาดหมี


ส่วนดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 32.88 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.


หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงหนักสุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ หุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ ร่วงลง 1.14% หุ้นอาร์มาดา ฮอฟเฟอร์ พร็อพเพอร์ตีส์ ดิ่งลง 3.01%


หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 2% โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 5.17% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.38% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.63% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.06%

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มกาสิโนพุ่งขึ้น ขานรับรายงานที่ว่าเขตปกครองพิเศษมาเก๊าเตรียมเปิดรับกรุ๊ปทัวร์จีนในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการเปิดรับครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ทั้งนี้ หุ้นลาเวกัส แซนด์ส พุ่งขึ้น 11.72% หุ้นวินน์ รีสอร์ทส์ พุ่งขึ้น 11.99% หุ้นเมลโค รีสอร์ท แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ทะยานขึ้น 25.47%


นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จาก Conference Board, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน