EXIM BANK โชว์ไตรมาส 3 ปล่อยสินเชื่อ 3.6 หมื่นล้าน เร่งฟื้นส่งออก

06 พ.ย. 2568 | 23:30 น.

EXIM BANK โชว์ไตรมาส 3 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 3.6 หมื่นล้าน NPL ลดลงกว่า 5.16% กำไรพุ่ง 1.2 พันล้าน เร่งฟื้นภาคส่งออกไทยสู่รากฐานที่มั่นคง

นายชลัช รัตนบุญนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยผลการดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 ว่า EXIM BANK อนุมัติสินเชื่อใหม่ 36,405 ล้านบาท และมียอดสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันรวมทั้งสิ้น 189,244 ล้านบาท โดยเป็นยอดคงค้างที่สนับสนุนการรุกตลาดใหม่ (New Frontiers) รวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV 36,399 ล้านบาท

ด้านการบริหารความเสี่ยง EXIM BANK ได้สร้างเกราะป้องกันผู้ประกอบการจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ผ่านบริการประกันการส่งออก โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจบริการประกันรวม 152,091 ล้านบาท 

“EXIM BANK มีฐานลูกค้ารวม 5,188 ราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้า SMEs 79.38% นอกจากนี้ EXIM BANK ได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ดำเนินการเสริมศักยภาพผู้ประกอบการผ่านการบ่มเพาะองค์ความรู้ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และการชี้ช่องทางสู่ตลาดใหม่ โดยมีผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมศักยภาพสะสมรวม 24,410 ราย”

ด้านการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ EXIM BANK ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ ควบคู่กับการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขหรือปรับโครงสร้างหนี้อย่างทันการณ์ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 EXIM BANK มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) 7,069 ล้านบาท คิดเป็น NPL Ratio ที่ 3.99% ลดลงจาก 5.16% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ทั้งนี้ มีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 17,702 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) เท่ากับ 250.42% สะท้อนความแข็งแกร่งในการบริหารความเสี่ยงของธนาคาร แม้ภาวะเศรษฐกิจและการส่งออกของไทยยังเผชิญหลากหลายปัจจัยเสี่ยง โดย EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 1,299 ล้านบาท

ด้านการส่งเสริมการลงทุนเพื่ออนาคต EXIM BANK สนับสนุนสินเชื่อและภาระผูกพันเพื่อการลงทุน 140,081 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 74.02% ของยอดคงค้างทั้งหมด โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) ทำให้มียอดสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อความยั่งยืน 89,134 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 47.10% ของยอดคงค้างรวม 

ซึ่งนอกจากการลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ธนาคารยังสนับสนุนผู้ประกอบการทุกขนาดให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการยกระดับกิจการให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและคาร์บอนไปพร้อม ๆ กัน อาทิ สินเชื่อ Green X Transformation เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน

“ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี EXIM BANK จะทำหน้าที่เสมือน Export Co-pilot คู่คิดและพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถนำพาผู้ประกอบการไทยเดินทางไปปักธงในตลาดใหม่ได้จริง มียอดส่งออกเพิ่มขึ้น ด้วยเครื่องมือทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงที่พร้อมในทุกสถานการณ์ เพื่อเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”