นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. พร้อมสนับสนุนนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ด้านการแก้หนี้ประชาชน โดยเฉพาะการแก้หนี้เสียภาคครัวเรือน (NPL) ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ด้าน นโยบายหลักในการเร่งขับเคลื่อนประเทศ
โดยในส่วนของ ธอส. ได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือแล้วมากกว่า 233,916 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 263,601 ล้านบาท
โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือได้ ดังนี้
สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี
สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี
สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ลูกค้าสถานะ NPL และลูกค้าสถานะมีโจทก์นอกที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี สามารถผ่อนชำระเงินงวดที่คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยที่ 3.55% ต่อปี และ +100 บาท เป็นระยะเวลา 2 ปี กรณีลูกค้าชำระเกินกว่าที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะนำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)
สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL และลูกค้าสถานะมีโจทก์นอก ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี
สำหรับกลุ่มลูกค้า SM และ NPL ลูกค้ารายย่อย ลูกค้าสวัสดิการ ลูกค้าประเภทแฟลต หรือ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจไทยระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 12 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90% +100 บาท
กรณีลูกค้าชำระเกินกว่าที่ธนาคารกำหนดธนาคารจะนำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)
ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีสถานะ NPL หรือลูกหนี้ที่ยังมีสถานะเป็น NPL ที่อยู่ระหว่างใช้มาตรการ/ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร โดยลูกค้าจะต้องกู้เงินจากธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ 1 ปี
สำหรับลูกค้าที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านทาง Application : GHB ALL BFRIEND โดยลูกค้าจะต้อง Upload หลักฐานยืนยันการได้รับผลกระทบทางรายได้เพื่อให้ธนาคารพิจารณาด้วย ส่วนกรณีที่ลูกค้าไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือ