ธปท.แจงปมอายัด ‘บัญชีม้า’ บริสุทธิ์ปลดระงับเร็วสุด ใน 4 ชม.

15 ก.ย. 2568 | 09:17 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ย. 2568 | 09:24 น.

ธปท. แจงปมอายัด ‘บัญชีม้า’ หากบริสุทธิ์ ปลดระงับเร็วสุด ภายใน 4 ชม./รอบ จากเดิม 3-7 วัน ระบุภายในก.ย.นี้ ยกเลิกกวาดบัญชีเกินจำเป็น ไม่โดนคนสุจริต

KEY

POINTS

  • ธปท. ปรับปรุงกระบวนการปลดระงับบัญชีผู้บริสุทธิ์ที่ถูกโยงเป็นบัญชีม้า ให้รวดเร็วขึ้นจากเดิม 3-7 วัน เหลือเร็วสุดภายใน 4 ชั่วโมง
  • การดำเนินการเป็นการ "ระงับธุรกรรม" ตามจำนวนเงินที่เสียหาย ไม่ใช่การอายัดทั้งบัญชี ทำให้เงินส่วนอื่นในบัญชียังคงใช้งานได้ตามปกติ
  • ภายในเดือน ก.ย. จะมีการกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ และจะปรับปรุงการแจ้งข้อมูลให้ผู้ได้รับผลกระทบทราบ

นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการกวาดบัญชีกลุ่มเสี่ยงบัญชีม้า และต่อเส้นการเงินเข้ามา ได้เชื่อมโยงข้อมูลจาก e-Money และ Digital Asset เข้ามาในระบบ CFR เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เส้นทางการเงินยาวขึ้นและกระทบคนมากขึ้น รวมถึงผู้บริสุทธิ์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ธปท. และศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และธนาคารพาณิชย์ ได้ปรับปรุงแนวทางการการปลดระงับบัญชีให้เร็ว เพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ จากเดิม 3-7 วัน เหลือเป็นเร็วที่สุดภายใน 4 ชั่วโมงต่อรอบการตรวจสอบจนถึง 1 วัน ซึ่งแบ่งเป็น 3 รอบ ได้แก่

  • รอบ 11.00 น. 
  • รอบ 15.00 น.
  • รอบ 19.00 น.

ทั้งนี้ บัญชีที่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นเงินนั้น ไม่ได้เป็นการอายัดบัญชี แต่เป็นการระงับธุรกรรม ตามจำนวนที่เกิดความเสียหาย กระทั่งไปครบจำนวน ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.ก.ภัยไซเบอร์ โดยหากบัญชีนั้น มีเงินอื่นอยู่ยังใช้ได้ ไม่ได้โดนอายัดบัญชี

สำหรับการโดนอายัดบัญชีจะเกิดขึ้นหลังจากากรสืบสวนสอบสวน ที่ตำรวจส่งหมายให้ธนาคารอายัด และธนาคารต้องไปดูตามบัญชีม้า ซึ่งแบ่งเป็น 5 สี ได้แก่ ม้าดำ เทาเข้ม เทาอ่อน น้ำตาลเข้ม และน้ำตาลอ่อน หากเป็นสีดำ เทาเข้ม จะยกระดับจากบัญชี เป็นบุคคล หรือถูกอายัดบัญชีทุกธนาคาร

นอกจากนี้ ภายในเดือนก.ย.นี้ จะมีการกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น เพื่อไม่ให้กวาดบัญชีผู้บริสุทธิ์เข้ามาเกินจำเป็น แต่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่กระทบกับการจับบัญชีม้าที่แท้จริง

ส่วนกรณีที่ร้านค้ากังวล และยกเลิกรับโอนเงินจากลูกค้านั้น อยากให้เข้าใจว่า หากเป็นผู้สุจริตจะได้รับการตรวจสอบที่รวดเร็ว และจะพยายามทำให้ไม่ถูกกระทบตั้งแต่ต้น และอาจจะยังใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารได้ตามปกติ ส่วนการทำธุรกรรมพร้อมเพย์ยอดยังปกติ

“ยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวมีผลกระทบบ้าง แต่อยากให้ทราบว่าเราอยากทำให้ปลอดภัย และสะดวก ซึ่งอีกบทบาทหนึ่งของธปท. คือ การโปรโมทดิจิทัลเพย์เมนท์ แต่ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัย ฉะนั้น หวังว่ามาตรการที่เราออกมาปลดได้เร็ว และไม่ได้กวาดผู้สุจริตเข้ามามาก แล้วจะแจ้งข้อมูลให้ทราบเพียงพอ ก็จะทำให้ร้านค้ามั่นใจได้มากขึ้น”

ขณะที่การเยียวยาผู้สุจริตนั้น นางสาวดารณี กล่าวว่า หากการระงับธุรกรรมเกิดจากความผิดพลาดของธนาคารและทำให้ลูกค้าเกิดความเสียหาย เช่น เสียค่าปรับล่าช้า จ่ายค่าน้ำหรือค่าไฟไม่ทัน แล้วโดนคิดค่าธรรมเนียม ธนาคารมีหน้าที่รับผิดชอบเยียวยาตามปกติ

สำหรับประชาชนสุจริตที่ได้รับผลกระทบจากการระงับธุรกรรม สามารถโทรไปที่ 1441 กด 2 เพื่อแจ้งขอปลดระงับธุรกรรมได้ เพียงระบุชื่อธนาคาร เลขที่บัญชี และบัตรประชาชน จากนั้นข้อมูลจะเข้าสู่รอบการตรวจสอบ และดำเนินการปลดระงับต่อไป

ส่วนจากกระแสโซเชียลในช่วงที่ผ่านมา พบว่า วันที่ 14 ก.ย.68 ที่ผ่านมา มีประชาชนโทรเข้ามาขอปลด จำนวน 100 ราย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ และจากการตรวจสอบจำนวนร้องเรียนผ่านสถาบันการเงิน ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป ธปท. จะร่วมกับธนาคารเพื่อแจ้งลูกค้าที่ถูกระงับธุรกรรมให้ทราบว่าถูกระงับจำนวนเงินเท่าไร กี่วัน และต้องติดต่อที่ไหนเพื่อดำเนินการต่อไป