เร่งสรรหา ‘ผอ.ออมสิน’ คนใหม่ บอร์ดสรรหาประชุมนัดแรกสัปดาห์หน้า

31 ก.ค. 2568 | 23:10 น.

คลังเร่งสรรหา ‘ผอ.ออมสิน’ คมใหม่ แทน ‘วิทัย รัตนากร’ บอร์ดสรรหาประชุมนัดแรกสัปดาห์หน้า ประกาศเปิดรับสมัครภายในเดือนส.ค.นี้

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการธนาคารออมสิน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสินแล้ว ประกอบด้วยคณะกรรมการ 5 ราย ซึ่งคณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมนัดแรกเร็วที่สุดช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาออกเกณฑ์ และคุณสมบัติของผู้สมัคร จากนั้นจะออกประกาศเปิดรับสมัครต่อไปเร็วที่สุดภายในเดือนส.ค.นี้

“เนื่องจากนายวิทัย รัตนากร ลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุพิเศษ ไม่ได้เป็นการลงจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระ ฉะนั้น คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องเร่งหาผู้บริหารเข้ามา เพื่อความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนภารกิจออมสิน“

ทั้งนี้ การเปิดรับสมัครผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่ จะดำเนินการตามขั้นตอนที่เคยทำมา ซึ่งในหลักการสรรหาจะมีการออกระเบียบตามกฎหมาย และต้องเข้าบอร์ดออมสินอีกครั้ง โดยไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครคนนอก หรือคนใน เราเปิดให้สมัครได้ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสรรหาผู้อำนวยการออมสินครั้งก่อนหน้า ปี 2563 กรรมการฯ มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร ดังนี้

  • ผู้สมัครต้องเป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทยอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ในวันยื่นใบสมัคร
  • ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่เคยเป็นบุคคล ล้มละลายทุจริตไม่เคยถูกไล่ออกปลดออกหรือให้ออกจากงานเพราะทุจริตต่อหน้าที่ไม่เป็นข้าราชการการเมือง
  • ไม่เป็นกรรมการธนาคารออมสินยกเว้นเป็นผู้บริหารซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
  • ไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่สกส.13/2562 ด้านความซื่อสัตย์สุจริตและชื่อเสียงด้านความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ รวมทั้งด้านสถานะทางการเงิน
  • มีวุฒิการศึกษาสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีที่สำนักงาน ก.พ.ให้การรับรอง เป็นต้น

ขณะที่คุณสมบัติเฉพาะนั้นต้องมีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจการเงินการตลาดและการ ธนาคารเป็นอย่างดีมีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการองค์กรมีภาวะความเป็นผู้นำสูงมีความรอบรู้และประสบการณ์ใน การบริหารจัดการองค์กร

โดยกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากส่วนราชการรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นใดของ รัฐต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรและมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนั้นรวมกันไม่น้อย กว่า 1 ปี นับถึงวันที่ยื่นใบสมัคร

กรณีเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชนต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีรายได้ขององค์กร ไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปีหรือเคยบริหารกิจการที่มี สินทรัพย์ขององค์กรไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งนี้ต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้นต่อเนื่องกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันที่ยื่นใบสมัคร