รู้ก่อนซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ สบม. กระทรวงการคลัง แบบไร้ใบตราสาร

รู้ก่อนซื้อพันธบัตรออมทรัพย์  สบม. กระทรวงการคลัง 2568   กระทรวงการคลังออกจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์บนวอลเล็ต สบม. ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2 (แบบไร้ใบตราสาร) วงเงิน 5,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได (เฉลี่ยร้อยละ 2.49 ต่อปี) จำหน่ายผ่านวอลเล็ต สบม. ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม - 7 สิงหาคม 2568

รุ่นอายุและอัตราดอกเบี้ย   

• รุ่นอายุ 10 ปี (SBST357A)

 อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได

•   ปีที่ 1 – 3 ร้อยละ 1.70 ต่อปี
•  ปีที่ 4 – 7 ร้อยละ 2.40 ต่อปี
•  ปีที่ 8 – 10 ร้อยละ 3.40 ต่อปี  (เฉลี่ยร้อยละ 2.49 ต่อปี)

วันจำหน่าย            

•  วันที่  30 กรกฎาคม  - 7 สิงหาคม 2568

ผู้มีสิทธิ์ซื้อ         

• บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย ที่มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
• (ผู้ที่มีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองก่อนการซื้อพันธบัตร ณ สาขา ธ. กรุงไทย)
   

วงเงินซื้อขั้นต่ำ-ขั้นสูงต่อราย       

• วงเงินซื้อขั้นต่ำ 100 บาท (100 หน่วย) - 20,000,000 บาท (20,000,000 หน่วย)
•  วงเงินซื้อขั้นสูงต่อครั้ง ไม่เกิน 5,000,000 บาท (5,000,000 หน่วย)
•  ซื้อเพิ่มเป็นจำนวนเท่าของ 100 บาท และไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อ

วิธีการจัดสรรพันธบัตร   

• ใช้วิธีการจัดสรรแบบ First-Come, First-Served (มาก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน)
   

วันที่ครบกำหนดไถ่ถอน

• 30 กรกฎาคม 2578

 

วันที่จ่ายดอกเบี้ย

• จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ในวันที่ 30 ของเดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอน โดยจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 30 ตุลาคม 2568

การชำระเงิน

•  ชำระเงินผ่านวอลเล็ต สบม. และได้รับหลักฐานการทำรายการตามรูปแบบที่วอลเล็ต สบม. กำหนด โดยดอกเบี้ยจะเริ่มคำนวณตั้งแต่วันที่ทำรายการซื้อ ยกเว้นกรณีซื้อพันธบัตรหลังเวลา 15.00.00 น. ของวันทำการหรือซื้อในวันเสาร์ - อาทิตย์ หรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ดอกเบี้ยจะเริ่มคำนวณตั้งแต่วันทำการถัดไป

การจ่ายดอกเบี้ย

•  ธนาคารแห่งประเทศไทยจะจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อโอนเข้าวอลเล็ต สบม. ของผู้ถือกรรมสิทธิ์ ในวันที่จ่ายดอกเบี้ย

 

 

 

การเสียภาษี

•  ธนาคารแห่งประเทศไทยจะหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่มีการจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราที่ประกาศในประมวลรัษฎากรโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำส่งข้อมูลภาษีให้กรมสรรพากรด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax)(บุคคลธรรมดาจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 ของดอกเบี้ยที่ได้รับ)
• ผู้ซื้อสามารถดูและดาวน์โหลดข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านวอลเล็ต สบม.
•  ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ฉบับที่ 20 ยกเว้นให้ผู้จ่ายเงินได้ไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิของประมวลรัษฎากร

การจ่ายคืนเงินต้น

• ธนาคารแห่งประเทศไทยจะจ่ายคืนเงินต้นให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อโอนเข้าวอลเล็ต สบม. ของผู้ถือกรรมสิทธิ์ในวันครบกำหนด

เมื่อครบกำหนดไถ่ถอน

• ไถ่ถอน หากวันครบกำาหนดไถ่ถอนตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เลื่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป

การแก้ไขชื่อ ที่อยู่ภายหลังการซื้อพันธบัตร

• สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ลงทุน ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ได้ที่หน้าแรกของแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยไปที่ ‘โปรไฟล์’และเข้าไปที่ ‘แก้ไขข้อมูลส่วนตัว’ (มุมขวาบน)

การทำธุรกรรมภายหลัง การซื้อพันธบัตร

ผู้ถือกรรมสิทธิ์สามารถดำเนินการผ่านวอลเล็ต สบม. ได้แก่

•  การใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันสามารถกระท าได้หลังจากวันที่ทำรายการซื้อ 2 วันทำการ
•  การโอนกรรมสิทธิ์ และการขายพันธบัตรก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน สามารถกระทำได้ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ตั้งแต่วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายคืนเงินต้นตามที่ ธปท. ประกาศกำหนด – การทำธุรกรรมภายหลังการซื้อพันธบัตรไม่เสียค่าธรรมเนียม ยกเว้นการใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันมีค่าธรรมเนียมการออก ใบค้ำประกัน 500 บาท

การทำธุรกรรมภายหลัง การซื้อพันธบัตร (ต่อ)

• รายการธุรกรรมต่าง ๆ จะปรากฏในวอลเล็ต สบม. เท่านั้น ไม่สามารถนำไปรวมกับพันธบัตรอื่น ๆ ในสมุดพันธบัตร (Bond Book) ได้.

ที่มา:

• ธนาคารแห่งประเทศไทย