นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.เดินหน้าสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรผ่านโครงการ BAAC Agro Tourism ที่มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนชุมชนที่เต็มไปด้วยศักยภาพในด้านทรัพยากรท้องถิ่น ศิลปะ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
พร้อมดึงอัตลักษณ์ของชุมชนมาเป็นจุดเด่นในการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสการท่องเที่ยวที่ให้ประสบการณ์อันล้ำค่า เพื่อต่อยอดสู่ธุรกิจชุมชนที่ได้รับมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยกรมการท่องเที่ยว และสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนอย่างยั่งยืน
ล่าสุดได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมชุมชนบ้านชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี หรือหมู่บ้านนักปราชญ์ หนึ่งในชุมชนต้นแบบในด้านการขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนที่เต็มไปด้วยศักยภาพ
ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมอย่างลงตัว โดยมีโบราณสถานเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นจุดเด่นของชุมชน ได้แก่ พระพุทธวิเศษ ขัวน้อยบ้านชีทวน ธรรมมาสสิงห์เทินบุษบก วัดศรีธาตุเจริญสุข และวัดพระธาตุสวนตาล
ขณะที่ชุมชนมีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นของชุมชน เช่น การปฏิบัติธรรม การแต่งกายแบบคนท้องถิ่น การแสดงพื้นบ้าน การดำนาแบบดั้งเดิม การย้อมผ้าด้วยสีจากธรรมชาติ การเรียนรู้การใช้สมุนไพรพื้นบ้าน การทำอาหารพื้นบ้าน งานหัตถกรรม และโฮมสเตย์ใกล้ชิดธรรมชาติในชุมชน
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพ อาทิ ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ผ้าลายปลาอีด ข้าวเกรียบว่าว ถั่วลิสงคั่วทราย และผลิตภัณฑ์จักสานจากไม้ไผ่ ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้ให้การสนับสนุนชุมชนในหลายมิติ ตั้งแต่การวางแผนและพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว การสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาชุมชน
การสนับสนุนองค์ความรู้ในการบริหารจัดการชุมชนและการตลาด ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยการแปรรูปและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อผลักดันชุมชนให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรง จนไปสู่การเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเช็กอินในจังหวัดอุบลราชธานี
โครงการ BAAC Agro Tourism ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ ธ.ก.ส. ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในการสนับสนุนองค์ความรู้ให้กับชุมชนที่เข้าร่วมโครงการกว่า 97 ชุมชน ทั่วประเทศ ในการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยการแปรรูป
การ Redesign และ Repackage การตลาด รวมถึงการเชื่อมโยงภาคีเครือข่าย ทั้งชุมชนใกล้เคียง หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เพื่อไปสู่การสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันมีเส้นทางท่องเที่ยวภายใต้โครงการ BAAC Agro Tourism แล้วกว่า 12 เส้นทาง อาทิ เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านออนใต้ จังหวัดเชียงใหม่ เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านบางโรง จังหวัดภูเก็ต และเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านสนวนนอก จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นต้น พร้อมตั้งเป้าเดินหน้าพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวผ่านโครงการ BAAC Agro Tourism อีกกว่า 21 เส้นทางทั่วประเทศ ภายในปี 2568
“ธ.ก.ส. มุ่งหวังว่า โครงการ BAAC Agro Tourism จะเป็นพลังสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากที่สามารถกระจายรายได้จากภาคการท่องเที่ยวไปสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน และสามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับชุมชนในการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรม วิถีชุมชน และภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย”
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ธ.ก.ส. พร้อมดูแลและเคียงข้างไปกับเกษตรกรและชุมชนในการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร เชื่อมโยงเครือข่ายการท่องเที่ยวไปสู่ระดับภูมิภาค และสร้างการท่องเที่ยววิถีไทยอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้การท่องเที่ยวชุมชนเป็นกลไกหนึ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,114 วันที่ 17 - 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568