ธอส. วางเป้าลด NPL เหลือ 5.13% ออกมาตรการอุ้มลูกหนี้เสีย-SM

04 มิ.ย. 2568 | 06:38 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2568 | 06:43 น.

ธอส. วางเป้าลด NPL ปีนี้ เหลือ 5.13% ลุยออกมาตรการอุ้มลูกหนี้เสีย-SM คาดปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้า 2.4 แสนล้าน

นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ ธอส. มียุทธศาสตร์ดูแลหนี้เสียของลูกค้า โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.13% ซึ่งแนวโน้ม NPL ของแบงก์สูงในช่วงไตรมาสแรก ตามสถานการณ์เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และช่วงเปิดเทอม อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งหลังของปีจะค่อยๆ ลดลง 

ขณะที่สถานการณ์กลุ่มลูกหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ ยังน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีแนวโน้มลดลง แต่ยอมรับว่า แนวโน้มเศรษฐกิจส่งผลต่อการชำระหนี้ของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ธอส. มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สินเชื่อ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ออกมาดูแล ฉะนั้น จึงประเมินว่าสถานการณ์จะไม่มีผลกระทบสูง เมื่อเทียบสัดส่วนจีดีพี

“NPL ที่อยู่ในช่วง Worse Case ของปีที่แล้ว ขึ้นไปสูงถึง 6% กว่า แต่ด้วยมาตรการที่เราออกมาช่วยลูกหนี้เพื่อให้รักษาบ้านเอาไว้ได้ ทำให้ NPL สิ้นปี 67 ของเราอยู่ที่ 4.95%” และในปี 2568 ช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา NPL เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง และแบงก์มีการตั้งสำรองส่วนเกินมากพอสมควร เพื่อรองรับหนี้เสีย ขณะเดียวกัน ธอส. ยังมีมาตรการดูแลลูกค้ากลุ่มหนี้เสีย และลูกค้ากลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ด้วย”

ขณะที่ผลการดำเนินงาน ธอส. ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้วกว่า 80,000 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 30.75% คิดเป็น 35% ของเป้าหมายในปี 2568 ที่ตั้งไว้ที่ 241,780 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ ยังคงครองแชมป์สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share)  42.8% ณ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 แม้ว่ามีเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้นแต่มีผลกระทบระยะสั้น แต่ยอดการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม ธอส.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เป็นว่าประชาชนยังคงเชื่อมั่นและต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง 

ด้านการเข้าร่วมมาตรการคุณสู้เราช่วย ธอส. มีลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ร่วมมาตรการได้ 330,000 ราย ปัจจุบันเข้าร่วมโครงการแล้ว 22% โดยกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้เข้าร่วมมาตรการเนื่องจากส่วนใหญ่ได้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือของธอส. แล้ว

“สิ่งที่สำคัญคือใน 330,000 ราย ที่มีปัญหา หรือเข้าเกณฑ์โครงการคุณสู้เราช่วยได้ ธอส. ได้ติดต่อลูกค้ากลุ่มนี้ครบแล้วทุกราย และได้ให้ลูกค้าเลือกว่าจะเข้ามาตรการไหน”

ด้านนายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส. ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อและมาตรการช่วยเหลือลูกค้าของ ธอส. อย่างเต็มที่ หลังจากได้รับมอบนโยบายจากกระทรวงการคลัง ซึ่ง ธอส. ได้จัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 ประกอบด้วย 

1.สินเชื่อบ้าน Premier Home 

หนุนกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยวงเงินตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวดีขึ้น กรอบวงเงิน 3,000 ล้านบาท 

อัตราดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 1.79% ต่อปีกรณีลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA) 

หรือฟรีค่าจดจำนองสูงสุด 200,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดนาน 40 ปี 

2.มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) 

ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่ม SM เพื่อเป็นการลดจำนวน NPL ให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม รวมถึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ ของธนาคารที่ยังคงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจให้สามารถผ่อนชำระหนี้เงินกู้ให้ธนาคารต่อไปได้ 

โดยลูกค้ากลุ่ม SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี จะได้รับความช่วยเหลือเดือนที่ 1 – 6 คิดอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 0% ต่อปี โดยผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาทต่อเดือน เดือนที่ 7 - 9 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 

1.90 % +100 บาท และเดือนที่ 10 -12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90 % +100 บาท กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)

3.สินเชื่อซ่อม - แต่ง และสินเชื่อซ่อม – แต่ง Plus 

เพิ่มเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อส่งผลบวก

ต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่มีการผ่อนชำระหนี้เงินกู้กับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี และมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีสม่ำเสมอทุกเดือนไม่น้อยกว่า 12 เดือน กรอบวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ให้กู้เพิ่มรวมวงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท / ราย โดยวงเงิน 100,000 บาทแรก อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.00% ต่อปี และอีก 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 – 3  เท่ากับ 1.99% ต่อปี และปีที่ 4 – 5 เท่ากับ 3.50% ต่อปี 

สำหรับลูกค้าปัจจุบันของธนาคารที่ต้องการกู้เพิ่มเพื่อปรับปรุง ต่อเติม หรือซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อาทิ รีโนเวทบ้านใหม่ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ หรือติดตั้ง Solar Roof  ยื่นกู้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องจดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน 

4.สินเชื่อ Pre Finance Premium 

เพิ่มวงเงินสินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ทำเลที่มีศักยภาพ 27 จังหวัด ที่ต้องการซื้อที่ดิน ก่อสร้างอาคาร พัฒนาสาธารณูปโภค และค้ำประกันที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดทำโครงการ อัตราดอกเบี้ยปีแรก 

เท่ากับ 3.90% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 4.40% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ 4.60% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.30% 

ปีที่ 4 - 5 เท่ากับ MLR (อัตราดอกเบี้ย MLR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.10%)