เฟดคงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.50% ตามคาด ประกาศลดวงเงินมาตรการ QT

01 พ.ค. 2567 | 23:49 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ค. 2567 | 00:24 น.

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวานนี้ (1 พ.ค.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี

การประกาศ คงอัตราดอกเบี้ย ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%

นอกจากนี้ เฟดยังประกาศชะลอการใช้มาตรการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ซึ่งถือเป็นการเพิ่มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด

ทั้งนี้ ภายใต้โครงการ QT ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิ.ย.2565 เฟดจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) วงเงิน 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม

มาตรการดังกล่าวทำให้งบดุลของเฟดลดลงสู่ระดับ 7.4 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงกลางปี 2565

อย่างไรก็ดี เริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย.2567 เฟดจะลดวงเงินพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่จะปล่อยให้ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม เหลือเพียง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่คงวงเงิน MBS ที่จะปล่อยให้ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม อยู่ที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์

มาตรการ QT นับเป็นมาตรการหนึ่งที่เฟดใช้เพื่อคุมเข้มทางการเงิน หลังจากการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และถือเป็นการที่เฟดถอนตัวจากบทบาทในฐานะผู้สร้างสภาพคล่องในระบบการเงินด้วยการเข้าซื้อและถือครองพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ในตลาด การลดวงเงินพันธบัตรและตราสารหนี้ที่จะปล่อยให้ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม จึงถือเป็นการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของเฟด

สำหรับ กำหนดการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ประจำปี 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 8 ครั้งดังนี้

  • วันที่ 30-31 ม.ค.
  • วันที่ 19-20 มี.ค.
  • วันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.
  • วันที่ 11-12 มิ.ย.
  • วันที่ 30-31 ก.ค.
  • วันที่ 17-18 ก.ย.
  • วันที่ 6-7 พ.ย.
  • วันที่ 17-18 ธ.ค.

ไทม์ไลน์การขึ้นและคงอัตราดอกเบี้ยของเฟด 

ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน (มีการขึ้นดอกเบี้ย 11 ครั้ง ตั้งแต่ มี.ค.2565)

การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2565 

  • วันที่ 25-26 ม.ค.     คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%
  • วันที่ 15-16 มี.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.25-0.50%
  • วันที่ 3-4 พ.ค.        ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 0.75-1.00%
  • วันที่ 14-15 มิ.ย.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 1.50-1.75%
  • วันที่ 26-27 ก.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 2.25-2.50%
  • วันที่ 20-21 ก.ย.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.00-3.25%
  • วันที่ 1-2 พ.ย.        ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.75-4.00%
  • วันที่ 13-14 ธ.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.25-4.50%

การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 

  • วันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.50-4.75%
  • วันที่ 21-22 มี.ค.      ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.75-5.00%
  • วันที่ 2-3 พ.ค.         ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.00-5.25%
  • วันที่ 13-14 มิ.ย.     คงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
  • วันที่ 25- 26 ก.ค.    ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50%
  • วันที่ 19- 20 ก.ย.    คงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%
  • วันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. คงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%
  • วันที่ 12-13 ธ.ค. คงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%

การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2567

  • วันที่ 31 ม.ค. คงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%
  • วันที่ 19-20 มี.ค. คงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%
  • วันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. คงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%

 

อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ สูงที่สุดในรอบ 23 ปี

การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปของเฟด ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 23 ปี เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าระดับที่เฟดต้องการ โดยแถลงการณ์ของเฟดระบุว่า การตัดสินใจคงดอกเบี้ยที่อัตรา 5.25-5.50% ต่อไป เนื่องจาก "ขาดความก้าวหน้า" ด้านเป้าหมายการลดอัตราเงินเฟ้อ

"ภาพรวมของเศรษฐกิจยังคงไม่แน่นอน และคณะกรรมาธิการยังคงระมัดระวังอย่างยิ่งต่อความเสี่ยงของเงินเฟ้อ"

เป็นเวลาหลายเดือนมาแล้วที่เฟดรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเพื่อชะลอเงินเฟ้อ จนทำให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐ ลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อปีที่แล้ว จนทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า อาจมีการลดดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้ความหวังที่จะเห็นเฟดลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ต้องชะลอออกไป

มีการปรับคาดการณ์ว่า เฟดอาจเริ่ม ลดดอกเบี้ยครั้งแรก ในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้