"ภาษีลาภลอย" จากกำไรดอกเบี้ย ของ "อิตาลี"ทุบหุ้นธนาคารดิ่ง

08 ส.ค. 2566 | 23:15 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ส.ค. 2566 | 23:24 น.

นโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ทำให้ธนาคารมีกำไรเพิ่มขึ้นมหาศาล อิตาลีจึงประกาศเก็บภาษีลาภลอยในอัตรา 40% ของกำไรที่ได้จากดอกเบี้ย ทำหุ้นธนาคารดิ่ง

สำนักข่าวรอยเตอร์ส (REUTERS) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา รัฐบาลอิตาลีได้ทำการอนุมัติการเก็บภาษีลาภลอย(Windfall Tax) กับธนาคาร ด้วยการกำหนดให้จ่ายภาษีแบบ One-Off 40% หรือเป็นการเก็บแบบครั้งเดียวในอัตรา 40% จากกำไรที่ได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ ทำเอาหุ้นธนาคารในยุโรปร่วงไปตามๆ กัน 

ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ได้รับผลกำไรเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ธนาคารจึงมีกำไรสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะสามารถขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ได้มาก แต่ไม่มีการเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝากให้ผู้กู้ 

หลายประเทศจึงได้มีการเรียกร้องให้เก็บภาษีจากธนาคารมากขึ้น อย่างประเทศสเปนและประเทศฮังการีเองก็ได้มีการเรียกเก็บภาษีลาภลอยในส่วนนี้แล้วเช่นกัน เพราะธนาคารได้รับผลประโยชน์จากนโยบายของภาครัฐ โดยที่ธนาคารไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ขณะที่นโยบายดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งพึ่งจะได้ดำเนินการหลังจากธนาคารออกมารายงานรายรับที่สูงลิ่วอย่างมหาศาลเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

การเก็บภาษีลาภลอย(Windfall Tax) สามารถช่วยประชาชนได้อย่างไร?
การอนุมัติการเก็บภาษีลาภลอยจากธนาคารอิตาลี เป็นการเก็บภาษีแบบจ่ายครั้งเดียวในปี 2023 เท่านั้น ด้วยอัตรา 40% ของรายได้ที่ธนาคารได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ที่หักรายจ่ายของดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว เพื่อวางแผนนำเงินภาษีที่ได้ไปช่วยเหลือประชาชนที่ถือสินเชื่อบ้าน หรือผู้ที่ประสบปัญหาเรื่องค่าครองชีพจากการเป็นผู้จำนอง เนื่องจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตลอดทำให้ประชาชนประสบปัญหาเป็นหนี้ที่ไม่สามารถส่งเงินไปถึงเงินต้นได้ 

รองนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ ซัลวินี กล่าวในการแถลงข่าวในกรุงโรมเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2023 ว่า  “เราต้องมองเฉพาะแค่ผลกำไรในครึ่งปีแรกของธนาคาร เพื่อตระหนักเอาไว้ว่า เราไม่ได้พูดถึงเงินเพียงไม่กี่ล้าน แต่เป็นหลักพันล้าน” 

และได้กล่าวต่ออีกว่า

“ถ้าหากเป็นความจริงที่ว่า ภาระที่เกิดจากต้นทุนทางการเงินสำหรับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ดอกเบี้ยที่ผู้ถือบัญชีเงินฝากได้รับ จะไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตามไปด้วยอย่างแน่นอน” 
 

นอกจากนี้ แหล่งข่าวของรัฐบาลรายหนึ่งยังได้เผยว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับรัฐมนตรีบางคนในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งยังมีแหล่งข่าวคนที่สองระบุชัดเจนว่า การเรียกเก็บภาษีลาภลอยในส่วนนี้ รัฐบาลตั้งใจที่จะ "ลงโทษพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมของธนาคาร"

ทั้งนี้ การประกาศเรียกเก็บภาษีลาภลอยจะทำให้รัฐบาลมีรายได้มากขึ้น เพื่อลดความเดือดร้อนที่กระทบต่อประชาชนจากนโยบายของภาครัฐ ซึ่งเท่ากับว่าธนาคารจะต้องเสียรายได้ให้กับรัฐฯ เพิ่มขึ้นนั่นเอง

โดยธนาคารจะจ่ายภาษีส่วนนี้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2024 ซึ่งมาตรการนี้อิงจากส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ(NIM) ซึ่งเป็นมาตรวัดรายได้ที่มาจากช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

เมื่อพิจารณาจากร่างมาตรการเบื้องต้น นักวิเคราะห์ของซิตี้(Citi) ได้คำนวณไว้ว่า ภาษีอาจเข้ามาล้างรายได้สุทธิของธนาคารอิตาลีในปี 2023 ไปเกือบหนึ่งในห้า ซึ่งทางธนาคารแห่งอเมริกา(Bank of America) เองก็ได้มีการประมาณรายได้สำหรับรัฐบาลไว้อยู่ที่ระหว่าง 2 - 3 พันล้านยูโร 

แต่จากมาตรการดังกล่าว ได้มีแหล่งข่าวเผยว่า กระทรวงการคลังคาดจะเก็บเงินได้น้อยกว่า 3 พันล้านยูโร หรือ 3.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับภาษีลาภลอยจากบริษัทพลังงานในปีนี้ ที่เพิ่มขึ้น 2.8 พันล้านยูโร

การเรียกเก็บภาษีลาภลอยในภาคส่วนนี้ของประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศสเปนและประเทศฮังการี อาจทำให้ในขณะนี้ประเทศอื่นๆ ออกมาปฏิบัติตาม

 

แหล่งที่มา : สำนักข่าวรอยเตอร์ส (REUTERS)