3 เรื่องต้องรู้ เมื่อพ.ร.ก.ปราบโกงออนไลน์ มีผลบังคับใช้
”
ธปท.เผยแพร่ 3 เรื่องต้องรู้ เมื่อพ.ร.ก.ปราบโกงออนไลน์ มีผลบังคับ 17 มี.ค.นี้ ป้องกันประชาชนถูกหลอกลวง ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือทางออนไลน์ จนสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้จัดทำเอกสารเผยแพร่ 3 เรื่องต้องรู้ หลังพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2566 เพื่อคุ้มครองประชาชนจากการถูกหลอกลวงผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือทางออนไลน์ จนสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
- 1.เมื่อถูกหลอกหรือมีเหตุสงสัยว่า ตกเป็นเหยื่อ เช่น กรณีหลอกลวงคอลเซ็นเตอร์ และแอปดูดเงิน เป็นต้น ให้รีบดำเนินการดังนี้
- แจ้งธนาคารทันที ผ่านเบอร์ศูนย์รับแจ้งเหตุ hotline หรือที่สาขาเพื่อให้ระงับธุรกรรมชั่วคราวช่วยตัดตอนเส้นทางการเงิน
- แจ้งตำรวจอย่างรวดเร็ว ผ่านออนไลน์หรือท้องที่ใดก็ได้เพราะธนาคารระงับธุรกรรมชั่วคราวได้ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยตำรวจจะแจ้งให้ธนาคารทราบเพื่อระงับธุรกรรมต่อ
- 2.โทษบัญชีม้าและซิมม้า...หนักขึ้น แค่โฆษณาซื้อ/ขาย...ก็ผิดแล้ว
- เปิดหรือยอมให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เป็นบัญชีม้า หรือ
- ให้คนอื่นใช้/ยืมใช้ซิมโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ในการทุจริต หรือทำผิดกฎหมาย
- ต้องรับโทษ...จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ
- ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือ
- ทั้งจำทั้งปรับ
- โฆษณาเพื่อให้มีการซื้อ/ขายบัญชีม้า หรือซิมโทรศัพท์
ต้องรับโทษ...
- จำคุก 2-5 ปี และปรับ ตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือ
- ทั้งจำทั้งปรับ
3.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
- ธนาคาร แชร์ข้อมูลทุจริตระหว่างกันโดยไม่ติด PDPA
- ผลที่คาดว่าจะได้รับ ลดบัญชีม้า ป้องกัน/จำกัดความเสียหาย
- ตำรวจ DSI ปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาต ได้รับแจ้งข้อมูลทุจริตที่แลกเปลี่ยนกันได้
- ผลที่คาดจะได้รับ ช่วยเหลือได้รวดเร็ว ติดตามลงโทษผู้กระทำผิด
- ผู้ให้บริการเครื่อข่ายโทรศัพท์/โทรคมนาคม เปิดเผย/แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันหรือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ตำรวจ DSI ปปง.)
- ผลที่คาดจะได้รับ ลดจำนวนซิมม้า ป้องกันมิจฉาชีพ เข้าถึงประชาชน