ชลเดช เขมะรัตนา ผู้นำรุ่นใหม่ Webull Thailand ที่เปลี่ยนโฉมตลาดลงทุนไทย

03 ธ.ค. 2568 | 10:24 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ธ.ค. 2568 | 10:39 น.

ชลเดช เขมะรัตนา ซีอีโอ Webull Thailand คว้ารางวัล Financial Innovation Award จากการพาแพลตฟอร์มเทรดสัญชาติอเมริกาขึ้นแท่นผู้นำตลาดไทย ด้วยฟีเจอร์ครบวงจร ค่าคอมเข้าถึงได้ และบริการระดับพรีเมียม พร้อมผลักดันอุตสาหกรรม FinTech ไทยสู่มาตรฐานโลก เป้าหมายใหญ่: ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องสำหรับทุกคน

ในปีที่อุตสาหกรรมการเงินเร่งตัวด้วยเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง ชื่อของ “ชลเดช เขมะรัตนา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ (ประเทศไทย) จำกัด คือหนึ่งในผู้นำรุ่นใหม่ที่โดดเด่นที่สุด จนได้รับรางวัล Financial Innovation Award จากบทบาทสำคัญในการนำWebull Thailand ก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนยุคใหม่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ

Webull Thailand ในเครือ Webull Group จากสหรัฐฯ ซึ่งให้บริการในกว่า 15 ประเทศทั่วโลก ถูกยกระดับภายใต้การนำของเขาให้เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่ครบวงจร ทั้งหุ้นไทย หุ้นสหรัฐฯ ตราสารทุน และฟีเจอร์เสริมด้านวิเคราะห์ข้อมูล จนได้รับคะแนน Review สูงสุดอันดับ 1 บน App Store และ Play Store ตามข้อมูลวันที่ 26 กันยายน 2568 สะท้อนฐานผู้ใช้งานที่ขยายตัวรวดเร็ว ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 1,000,000 ครั้งผู้เปิดบัญชีแล้วกว่า 300,000 ราย และ AUM ราว 6,000 ล้านบาท

รางวัลนี้ยังมาจากบทบาทขับเคลื่อนภาพใหญ่กว่า ชลเดชเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Top 5 FinTech Hub ของเอเชียภายใน 2 ปี และสนับสนุนการสร้างสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทยให้เป็นศูนย์รวมของผู้เล่นทุกภาคส่วน ตั้งแต่สตาร์ทอัพ ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกัน ไปจนถึงหน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างระบบนิเวศการเงินใหม่ที่ยั่งยืนและเท่าเทียม

ชลเดช เขมะรัตนา ผู้นำรุ่นใหม่ Webull Thailand  ที่เปลี่ยนโฉมตลาดลงทุนไทย

สำหรับเป้าหมายต่อไป Webull เตรียมเปิดตลาดสินทรัพย์ใหม่จำนวนมาก ทั้งหุ้นจีน หุ้นฮ่องกง และบริการ Robo Advisory ที่ใช้โมเดลการลงทุนระดับโลก พร้อม Market Quote แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดบัญชี TISA เพื่อช่วยให้นักลงทุนไทยได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากการลงทุนในหุ้นไทย

ชลเดช ระบุว่า “Key Success” ของ Webull คือความมุ่งมั่นในการอัปเดตฟีเจอร์ทุกไตรมาส, เปิดตัวสินทรัพย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง และตั้งค่าคอมมิชชันที่ “เข้าถึงได้” เพื่อให้คนไทยสามารถเริ่มลงทุนด้วยต้นทุนต่ำ เขายังผลักดันบริการ Webull Prime สำหรับนักลงทุน High Net Worth ที่มี AUM ตั้งแต่ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป นำเสนอสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมียม และเปิดให้เทรดหุ้นไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งตอกย้ำความตั้งใจของบริษัทที่จะเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนแบบ “ครบจบที่เดียว”

เขาตั้งเป้าเพิ่ม AUM เป็น 40,000 ล้านบาทในปีหน้า และจะขยายสู่ตลาดที่ Webull มีใบอนุญาต เช่น กลุ่มประเทศ EU ญี่ปุ่น และอาจรวมถึงคริปโตเคอร์เรนซี หากตรงกับความต้องการของผู้ใช้

ด้วยวิสัยทัศน์ “ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องสำหรับทุกคน” ชลเดชไม่เพียงสร้างนวัตกรรมการลงทุนใหม่ แต่ยังกำลังเปลี่ยนโฉมตลาดทุนไทยให้ยกระดับสู่มาตรฐานสากลอย่างแท้จริง