กูรูชี้จับตาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ผู้กุมชะตาราคาทองคำ แนะย่อตัวซื้อ 51,000 บาท

19 ส.ค. 2568 | 23:30 น.

โบรกส่องราคาทองคำยังคงเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซีย–ยูเครนที่ยังไร้ข้อสรุป ถ้อยแถลงที่ยังคงคลุมเครือ พร้อมจับตาการประชุมระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี จุดเปลี่ยนสำคัญของสงคราม แนะกลยุทธ์รอจังหวะซื้อเมื่อย่อตัวที่ 51,000 - 50,800 บาท

นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จากหลายปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาระหว่างระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่จบลงโดยไร้ข้อตกลงใดๆ เพื่อยุติหรือชะลอสงครามในยูเครน

รวมไปถึงถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ และรัสเซีย ที่ยังคงคลุมเครือ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้มองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งมีแนวโน้มได้รับแรงสนับสนุนจากความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก

อีกทั้งยังคงต้องจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก เนื่องจากการเจรจาในครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงครามยูเครน-รัสเซีย

โดยหากการเจรจาไม่สามารถสร้างความคืบหน้า หรือมีแรงกดดันให้ยูเครนยอมสละดินแดน อาจเพิ่มความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ทันที และส่งผลให้แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับมาแข็งแกร่ง

แต่อย่างไรก็ดี หากการเจรจาสามารถสร้างความหวังสู่สันติภาพได้ ก็อาจช่วยคลายความกังวลของนักลงทุน และกดดันราคาทองคำให้ชะลอตัวในระยะสั้น

ขณะเดียวกันท่าทีของยุโรป และองค์การนาโต ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ตลาดจับตามอง หากยุโรปยังยืนยันไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงพรมแดนด้วยกำลัง และให้การสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่ ความขัดแย้งอาจยืดเยื้อ และหนุนแรงซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง

และหากเกิดความเห็นต่างภายในยุโรป โดยบางประเทศแสดงท่าทีอ่อนข้อให้กับรัสเซีย ก็อาจถูกตีความว่าแรงกดดันเริ่มผ่อนคลาย และราคาทองคำอาจเผชิญแรงขายทำกำไรได้ในระยะสั้น

จากประเด็นดังกล่าว ฝ่ายวิจัยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวที่ระดับ 3,308 และ 3,285 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยคาดว่าราคาทองคำในประเทศจะเคลื่อนไหวบริเวณ 51,000 และ 50,800 บาท

ทั้งนี้ หากในช่วงต้นสัปดาห์ราคายังไม่สามารถดีดกลับไปยืนเหนือ 3,375 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ ก็มีแนวโน้มพักตัวระยะสั้นลงสู่โซนดังกล่าว ซึ่งถือเป็นโอกาสสะสมสำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะ หรือผู้ที่วางแผนทยอยซื้อเฉลี่ยต้นทุน