BBL มั่นใจสินเชื่อปี 68 ขยายตัว 3-4% ชูพอร์ตต่างประเทศหนุนเป้าโต

12 ก.ค. 2568 | 03:41 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ค. 2568 | 06:05 น.

ธนาคารกรุงเทพ คงเป้าสินเชื่อปี 68 ขยายตัว 3-4% แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา พร้อมกระจายสินเชื่อเพื่อไปเติบโตในต่างประเทศในภูมิภาคมากขึ้น เพื่อนชดเชยสินเชื่อภายในประเทศที่ชะลอตัว

ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ยังคงคาดการณ์ว่าการเติบโตของสินเชื่อในปี 2568 จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3-4% ตามแผนที่วางไว้ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในขณะนี้จะมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาในเรื่องนโยบายภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง

BBL มั่นใจสินเชื่อปี 68 ขยายตัว 3-4% ชูพอร์ตต่างประเทศหนุนเป้าโต

นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในการสัมมนา “รู้ทันโลกการเงิน ทลายหนี้ สู่ความยั่งยืน” ว่าการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐนั้นยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารต้องติดตาม เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีความชัดเจนในภายหลัง ธนาคารก็พร้อมที่จะทบทวนเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่ออีกครั้งในครึ่งปีหลังของปี 2568

 

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างๆ เช่น ข้อพิพาททางการค้าและการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพมองเห็นโอกาสในการเติบโตจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งรวมถึงอินโดนีเซีย ที่เป็นตลาดสำคัญที่ธนาคารมีสาขาใน 9 ประเทศจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน การขยายตัวในต่างประเทศจะช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ธนาคารกรุงเทพยังคาดว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นตัวจากผลกระทบของสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งภาคการท่องเที่ยวถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อสถานการณ์ในภาคนี้ดีขึ้น ก็จะส่งผลให้การเติบโตของสินเชื่อในประเทศไทยกลับมาเพิ่มขึ้นตามมาในภายหลัง ธนาคารกรุงเทพจึงตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในประเทศไว้ที่ 3-4% จากการกระจายสินเชื่อเพื่อไปเติบโตในต่างประเทศในภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน

 

ในขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงตั้งใจที่จะขยายสินเชื่อในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวได้ในเร็วๆ นี้ หลังจากช่วงวิกฤตจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่กระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยการฟื้นตัวนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 4 เดือนหลังจากเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายลง

อย่างไรก็ตาม หากการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐยังคงไม่ชัดเจนหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าและเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงเทพพร้อมที่จะทบทวนและปรับเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อใหม่อีกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และมั่นใจว่าเป้าหมายการเติบโตนั้นยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้โดยไม่มีผลกระทบที่มากเกินไป

สรุปได้ว่า ธนาคารกรุงเทพยังคงมั่นใจในทิศทางการเติบโตของสินเชื่อในปี 2568 แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก โดยการขยายสินเชื่อในต่างประเทศจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยเสริมการเติบโตของธนาคาร พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 3-4% ตามแผนเดิม หากเศรษฐกิจไทยไม่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงจากการเจรจาภาษีการค้าในอนาคต