เฟดชี้ไม่รีบขยับดอกเบี้ย เหตุผลกระทบภาษีทรัมป์ยังไม่ชัด

21 มิ.ย. 2568 | 04:39 น.

ธนาคารกลางสหรัฐฯเผยรายงานนโยบายการเงินล่าสุดยังแสดงความยืดหยุ่น เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ระบุยังไม่เร่งขยับดอกเบี้ย รอประเมินภาษีทรัมป์

ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด (FED) เปิดเผยรายงานนโยบายการเงินฉบับล่าสุดต่อสภาคองเกรสโดยระบุว่าระบบการเงินของสหรัฐฯ ยังคงแสดงความยืดหยุ่น แม้เผชิญกับความไม่แน่นอนจากภายนอก ขณะที่ตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงพอประมาณ

ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวยังชี้ให้เห็นว่า ผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้นเพิ่งเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจ และยังต้องใช้เวลาในการประเมินทิศทางที่ชัดเจน เฟดยังคงยึดแนวทางระมัดระวัง โดยยังไม่เร่งดำเนินนโยบายการเงินเพิ่มเติมในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี แม้ยังไม่สามารถตรวจวัดผลของภาษีโดยตรงจากดัชนีราคาผู้บริโภคได้ แต่รูปแบบการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าหลายหมวดในช่วงปีนี้ บ่งชี้ว่า มาตรการภาษีนำเข้าอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันให้เงินเฟ้อในหมวดสินค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นในสินค้าบางกลุ่ม เช่น รถยนต์ รายงานระบุว่าผลของภาษียังไม่สะท้อนในข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่ผลกระทบเริ่มปรากฏในแง่ของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่อ่อนแอลง

อย่างไรก็ตาม รายงานซึ่งออกปีละสองครั้งดังกล่าว มักทำหน้าที่สรุปสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินโดยรวม เพื่อประกอบการตัดสินใจของรัฐสภาและนักลงทุน โดยในการประชุมกำหนดนโยบายล่าสุดเมื่อวันพุธ (18 มิ.ย.) เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในกรอบ 4.25-4.5% ซึ่งเป็นระดับที่ใช้ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

เฟดให้เหตุผลว่า จำเป็นต้องรอดูผลกระทบจากนโยบายการค้าของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการภาษี ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ ก่อนจะพิจารณาปรับนโยบายการเงินในอนาคต 

ซึ่งเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่ยังประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะชะลอตัวในระยะสั้น พร้อมกับอัตราการว่างงานที่อาจเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.5% ภายในปีนี้