MTS Goldแม่ทองสุก เปิดเผยถึงทิศทางแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์นี้ (19-23 พ.ค. 68) กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ราคาทองคำตลาดโลกและราคาทองไทยในสัปดาห์หน้ายังคงเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways ค่อนไปทาง Sideway down เนื่องจากขานรับข่าวสหรัฐฯ และจีนที่ได้บรรลุข้อตกลงในการลดภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariffs) ซึ่งกันและกัน
ท่ามกลางความพยายามที่จะยุติสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและสร้างความผันผวนแก่ตลาดการเงิน โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะระงับการขึ้นภาษีเพิ่มเติมเป็นเวลา 90 วัน พร้อมกับลดอัตราภาษีนำเข้าที่มีอยู่ลง 115% ภายใต้ข้อตกลงนี้ จีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เหลือ 10% จากเดิม 125%
ขณะที่สหรัฐฯ จะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลงเหลือ 30% จากเดิม 145% จากข่าวดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำหลุดระดับ 3,200 เหรียญลงมาอย่างต่อเนื่อง
และดีดตัวขึ้นมายืนเหนือ 3,200 เหรียญได้อีกครั้งในวันศุกร์ หลังจากที่ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง และนโยบายการเงินกําลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน
นอกจากนี้ พาวเวลกล่าวว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เฟดเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ส่งผลให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงเป็น ประวัติการณ์ และแม้ว่าตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวยังคงใกล้เคียงกับเป้าหมาย 2% ของเฟด
แต่ยุคของอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% อาจจะไม่กลับมาอีกในเร็ว ๆ นี้ ถ้อยแถลงดังกล่าวมีส่วนทําให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในทองคํา รวมถึงสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ดูเหมือนการเจรจาจะล้มเหลว
สำหรับสัปดาห์นี้ MTS GOLD แม่ทองสุก คาดว่าราคาทองคำตลาดโลกจะมีแนวรับหลักที่ระดับ 3,050 เหรียญ และมีแนวต้านหลักอยู่ที่ระดับ 3,300 เหรียญ
ด้านราคาทองไทยจะมีแนวรับที่ระดับ 48,500 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านหลักที่ระดับ 51,000 บาทต่อบาททองคำ
ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า
ราคาทองคำล่าสุด ประกอบด้วย