ธปท. รอประเมินคลังเก็บ “ภาษีขายหุ้น” จับตากระทบเงินทุนเคลื่อนย้าย

30 พ.ย. 2565 | 10:35 น.

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับกรณี ครม. ไฟเขียวกฎหมายเก็บ “ภาษีขายหุ้น” ต้องรอประเมินในระยะต่อไปว่าจะกระทบกับเงินทุนเคลื่อนย้ายหรือไม่ เชื่อช่วงแรกอาจมีการปรับตัวบ้าง แต่ตลาดทุนไม่น่ากระทบรุนแรง

นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงการคลังเตรียมเก็บภาษีขายหุ้น จะกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายหรือไม่ ว่า ในช่วงแรกอาจจะมีการปรับตัวบ้าง แต่ไม่น่าจะมีผลกระทบรุนแรงต่อการทำงานของตลาดทุน ซึ่งต่างประเทศก็จะมีการจัดเก็บภาษีในลักษณะนี้อยู่แล้ว 

 

อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้ ก็ต้องประเมินในระยะต่อไป ส่วนเงินทุนเคลื่อนย้ายตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันยังมีเงินไหลเข้าหรือฟันด์โฟลว์ ประมาณ 5,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ธปท. มองว่า ในการเก็บภาษีขายหุ้น แม้ว่าจะทำให้ต้นทุนการทำธุรกรรมในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น แต่เมื่อพิจารณาจากกำไรของภาคธุรกิจที่จะดีขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยแล้ว เชื่อว่าจะไม่สร้างปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเงินทุนในภาพรวม

 

นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

สำหรับกรณีการเก็บภาษีขายหุ้น เป็นผลมาจากที่ประชุม ครม. ล่าสุด ได้มีมติเห็นชอบการจัดเก็บ "ภาษีขายหุ้น" ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในอัตรา 0.10% จากธุรกรรมการขายหุ้น (Transaction Tax) แต่ในปีแรกจะมีการเก็บภาษีก่อนในอัตรา 0.055% เมื่อรวมภาษีท้องถิ่น

 

ทั้งนี้จะออกเป็นร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ฉบับที่ .. พ.ศ. ....

 

ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุก่อนหน้านี้ว่า หลังจากกฎหมายฉบับนี้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลบังคับใช้ต่อไปภายใน 3 เดือน

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นการเก็บภาษีขายหุ้น ครั้งนี้ กระทรวงการคลัง ประเมินว่า การปัดฝุ่นจัดเก็บภาษีฉบับนี้ จะสร้างรายได้เข้ารัฐได้อีกประมาณปีละ 1.5 - 1.6 หมื่นล้านบาท