"เอสซีบี เอกซ์" วางเป้าดันธุรกิจในเครือขึ้นแท่นยูนิคอร์นใน 5 ปี

04 ต.ค. 2565 | 12:47 น.

"เอสซีบี เอกซ์" วางเป้าดันธุรกิจในเครือขึ้นแท่นยูนิคอร์นใน 5 ปี พร้อมหาโอกาสควบรวมกิจการ นำธุรกิจที่ดีช่วยเสริมศักยภาพและต่อยอดธุรกิจในเครือ

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เปิดเผยในการกล่าวในหัวข้อ “ซีอีโอ Big Crop สู่ธุรกิจแห่งอนาคต” ภายในงาน สัมมนา Thailand Economic Outlook 2023 จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ว่า เอสซีบี เอกซ์ วางแผนการดำเนินงานในช่วง 5 ปีนี้  โดยตั้งเป้าหมายธุรกิจสินเชื่อรายย่อยและบริการการเงินแบบดิจิทัล และธุรกิจแพลตฟอร์มเทคโนโลยี จะมีสัดส่วนรายได้รวมกันมากกว่า 30% 

 

อีกทั้งยังวางแผนนำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยบางธุรกิจในกลุ่มต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และสร้างการเติบโตของธุรกิจนั้นๆได้ด้วยตัวเองมากขึ้น ผ่านการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายใน 5 ปี 

 

ขณะที่ในส่วนของธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัทนั้น ตั้งเป้าที่จะเริ่มสร้างกำไรขึ้นมา และก้าวขึ้นเป็นธุรกิจยูนิคอร์นได้ภายใน 5 ปี

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการควบรวมกิจการ หรือทำดีลในรูปแบบ M&A เพื่อนำธุรกิจที่ดีเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพและต่อยอดธุรกิจในเครือตลอดเวลา

 

อย่างไรก็ดี การดำเนินดังกล่าวจะต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแผนการเจรจาในแต่ละดีลที่บริษัทสนใจ โดยเป็นหนึ่งในแผนที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทหลังปรับโครงสร้างธุรกิจ
         

สำหรับการปรับโครงสร้างของเอสซีบี เอกซ์ เป็นการปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ ทั้งเทคโนโลยี และพฤติกรรมของลูกค้า โดยที่ยังคงมีวิสัยทัศน์ในการเป็นกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำในอาเซียน ซึ่งบริษัทเดินหน้าในการแสวงหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีให้กับกลุ่มบริหารจัดการเงินทุนของกลุ่มให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนต่อบริษัทและผู้ถืงหุ้นในระยะยาว

 

นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า โครงสร้างธุรกิจของเอสซีบี เอกซ์ จะดำเนินงานภายใต้ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการเงินแบบดั้งเดิม คือ ธุรกิจธนาคาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ,ธุรกิจการบริหารจัดการสินทรัพย์ บลจ.ไทยพาณิชย์ และเอสซีบี จูเลียส แบร์ ธุรกิจประกันเอสซีบี โพรเทค ที่จะยังคงเป็นแกนหลักในการทำธุรกิจต่อไป และสามารถเติบโตด้วยธุรกิจของตัวเอง ซึ่งเป็นธุรกิจ Cash Cow แต่จะมีการพัฒนาในเรื่องประสิทธิภาพให้ดีขึ้น เน้นการสร้างผลกำไร และผลตอบแทนที่สูงขึ้นเป็นหลัก

ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยและบริการการเงินแบบดิจิทัล ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และบางธุรกิจมีอัตราผลกำไรที่สูงอยู่แล้ว ธนาคารได้แยกออกมาจากธนาคาร เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ ได้แก่ CardX AutoX Abacus AlphaX เป็นต้น 

 

กลุ่มธุรกิจแพลตฟอร์มเทคโนโลยี โดยบริษัทมองว่าจะมีบทบาทกลายเป็นกลุ่มธุรกิจหลักในระยะยาว เช่น InnovestX TokenX Purple ventures เป็นต้น