เงินบาทวันนี้ปิดตลาด “แข็งค่า”ที่ 35.17 บาท/ดอลลาร์

11 ส.ค. 2565 | 11:50 น.

ค่าเงินบาท “แข็งค่า”สอดคล้องกับหลายสกุลเงินในภูมิภาค ขณะเงินดอลลาร์ฯ ยังคงเผชิญแรงเทขายต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะไม่จำเป็นต้องเร่งคุมเข้มนโยบายการเงิน

เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบประมาณ 1 เดือนครึ่งที่ 35.16 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ 35.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.57 บาทต่อดอลลาร์ฯ

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า การแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับหลายสกุลเงินในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงเผชิญแรงเทขายต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะไม่จำเป็นต้องเร่งคุมเข้มนโยบายการเงิน หลังมีสัญญาณว่า แรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อาจกำลังเริ่มชะลอลง

นอกจากนี้การแข็งค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสัญญาณฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,136.96 ล้านบาท และมีสถานะเป็น net inflow เข้าตลาดพันธบัตร  1,127 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 1,637 ล้านบาท แต่มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 510 ล้านบาท)

 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2565 โดยธปท. อยู่ที่ -22.23 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -18.99 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 15-19ส.ค.2565 คาดไว้ที่ 34.70-35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/65 ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์สหรัฐฯ-จีนในประเด็นไต้หวัน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด

 

 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และรายงานการประชุมเฟด เมื่อวันที่ 26-27 ก.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. และจีดีพีไตรมาส 2/65 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ค. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีก