ดาวโจนส์ปิดพุ่งเกือบ 500 จุด ขานรับผลประกอบการบจ.แข็งแกร่ง

19 เม.ย. 2565 | 23:51 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 500 จุด ในวันอังคาร (19 เม.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการแสดงความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 34,911.20 จุด พุ่งขึ้น 499.51 จุด หรือ +1.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,462.21 จุด เพิ่มขึ้น 70.52 จุด หรือ +1.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,619.66 จุด เพิ่มขึ้น 287.30 จุด หรือ +2.15%
         

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากที่นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ต่างสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
         

ทั้งนี้ นายบอสติก กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ว่า เฟดควรใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและไม่ควรเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่นายอีแวนส์กล่าวในการประชุมที่นิวยอร์กว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 2 ครั้ง สู่ระดับ 2.25% - 2.50% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่ากรอบที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.50% - 2.75% นอกจากนี้ ขายังไม่เห็นความจำเป็นที่เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่านั้น
 

การแสดงความเห็นของนายอีแวนส์และนายบอสติก สวนทางกับที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75% จนแตะระดับ 3.5% ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อสกัดตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
         

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 ที่ระดับ 2.67 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.58 ดอลลาร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดตลาดพุ่งขึ้น 3.05%

 

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.18% ขณะที่หุ้นไอบีเอ็ม ดีดตัวขึ้น 2.43% ก่อนที่บริษัททั้งสองแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการภายหลังจากตลาดปิดทำการซื้อขาย
         

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.07% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 1.84% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 1.77% หุ้นเวลส์ ฟาร์กโก ปรับตัวขึ้น 1.4%

หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้น หลังจากศาลแขวงรัฐฟลอริดามีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งการสวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบินและระบบขนส่งสาธารณะ โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 5.66% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.05% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดีดขึ้น 2.11% หุ้นเจ็ตบลู แอร์เวย์ส พุ่งขึ้น 2.92% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.36%
         

อย่างไรก็ดี ห้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 5% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.85% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.89% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 0.79% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.18%
         

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.793 ล้านยูนิต สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 1.745 ล้านยูนิต จากระดับ 1.788 ล้านยูนิตในเดือนก.พ.