ดาวโจนส์ปิดบวก 422 จุด คลายกังวลสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน

16 ก.พ. 2565 | 00:04 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในวันอังคาร (15 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 422.67 จุด นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,988.84 จุด เพิ่มขึ้น 422.67 จุด หรือ +1.22%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,471.07 จุด เพิ่มขึ้น 69.40 จุด หรือ +1.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,139.76 จุด เพิ่มขึ้น 348.84 จุด หรือ +2.53%

 

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นมากที่สุด 2.7% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.4% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง

ตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองลดลง หลังรัสเซียสั่งถอนทหารบางส่วนที่ประจำการใกล้ชายแดนยูเครนกลับไปยังฐานทัพภายในประเทศ
   

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันอังคารว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.1% หลังจากดีดตัวขึ้น 9.8% ในเดือนธ.ค.
   

นักลงทุนยังปรับตัวรับการคาดการณ์ในตลาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค.
          

ความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์
          

ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟียพุ่งขึ้น 5.5% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 หลังบริษัทอินเทลประกาศข้อตกลงซื้อบริษัททาวเวอร์ เซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปของอิสราเอลเป็นวงเงิน 5.4 พันล้านดอลลาร์
          

หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวกับการเดินทางพุ่งขึ้น โดยดัชนี S&P500 กลุ่มสายการบิน พุ่งขึ้น 5.9% และกลุ่มโรงแรม, อาหารและสันทนาการ
พุ่งขึ้น 2.4%
          

การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นเรสเตอรอง แบรนด์ อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น  3.6% หลังเปิดเผยผลกำไรและรายได้รายไตรมาสสูงเกินคาด