ยื่นภาษีออนไลน์ 2565 รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษีปี 2564 เช็คที่นี่

08 ก.พ. 2565 | 07:39 น.

ยื่นภาษีปี 2565 เสียภาษีออนไลน์ เงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ปี 2564 ยื่นแบบได้ถึง 31 มี.ค.65 กรณีออนไลน์ได้ถึง 8 เม.ย.65 ใครมีหน้าที่ยื่นแบบเสียภาษีบ้าง รายได้ขั้นต่ำเท่าไหร่ ติดตามได้จากที่นี่

ความรู้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คงเคยได้ยินกันว่า สิ่งที่ไม่สามารถหนีพ้นได้คือ ภาษี และ ความตาย เพราะตามประมวลรัฎากร กำหนดไว้ว่า ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ยื่นเสียภาษีต่อกรรมสรรพากร แต่จะเป็นเงินได้ในระดับไหน และต้องทำอะไรบ้าง

 

  • สำหรับผู้มีเงินได้ ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคือ ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีที่ผ่านมา โดยมีสถานะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
  1. บุคคลธรรมดา
  2. ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
  3. ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
  4. กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
  5. วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
  • เมื่อมีเงินได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะต้องทำอะไรบ้าง?
  1. กรณีเป็นผู้มีเงินได้ ที่ไม่มีเลขประจำตัวประชาชน คือ คนต่างด้าว หรือ กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง มีหน้าที่ขอมีเลข และบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีเงินได้เกิดขึ้น
  2. ผู้มีเงินได้ที่มีเลขประจำตัวประชาชน สามารถใช้ เลขประจำตัวประชาชน แทนเลขประจำตัว ผู้เสียภาษีอากรได้ โดยไม่ต้องขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรอีก
  • ผู้มีเงินได้ที่มีภูมิลำเนา อยู่ในกรุงเทพมหานคร อาจยื่นคำร้อง ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ทั้ง 30 แห่ง หรือ สำนักสรรพากรพื้นที่ สาขา(อำเภอ)ทุกแห่ง
  • สำหรับในต่างจังหวัด ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานสรรพากร พื้นที่ (จังหวัด) และสำนักงานสรรพากร พื้นที่สาขา (อำเภอ) ทุกแห่ง แล้วแต่กรณี

 

  • ระยะเวลาในการยื่นเสียภาษี
  1. ยื่นแบบฯ  ภายใน วันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไป
  2.  กรณียื่นออนไลน์ ภายในวันที่ 8 เมษายน ของปีถัดไป

 

 

  • เงินได้อะไรบ้างที่ต้องเสียภาษี?

ตามกฎหมาย เงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเรียกว่า "เงินได้พึงประเมิน" หมายถึง เงินได้ของบุคคลใดๆ หรือหน่วยภาษีใดข้างต้นที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคมที่เกิดขึ้นในปีภาษีนั้นๆ ซึ่งได้แก่

  1. เงิน
  2.  ทรัพย์สินซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน ที่ได้รับจริง
  3. ประโยชน์ซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน
  4. เงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้
  5. เครดิตภาษีตามที่กฎหมายกำหนด

 

  • ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีภาษีจะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ ก็ต่อเมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าเมื่อคำนวณภาษีแล้วจะมีภาษีต้องชำระเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม ดังนี้

  เกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำที่ผู้มีเงินได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี

  1. บุคคลธรรมดาและผู้ถึงแก่ความตาย มีเงินได้พึงประเมิน ดังนี้
  • เงินเดือนเพียงอย่างเดียว

โสด 120,000

สมรส 220,000

 

  • เงินได้ประเภทอื่น

โสด 60,000

สมรส 120,000

 

2.ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิใช่นิติบุคคล หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล มีเงินได้พึงประเมินเกิน 60,000 บาท

3.กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง มีเงินได้พึงประเมินเกิน 60,000 บาท

 

  • วิธีการคำนวณภาษี

สำหรับการเสียภาษีจะต้องนำเงินได้พึงประเมินทุกประเภทรวมกันตลอดปีภาษี หักด้วยค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด เหลือเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือเงินได้เท่าไหร่มาหักด้วยค่าลดหย่อนต่างๆ ตามที่กำหมายกำหนด จากนั้นเหลือเงินได้เท่าไหร่จึงมาหักด้วยค่าลดหย่อนเงินบริจาคที่ไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด

 

สุดท้ายเหลือเงินได้สุทธินำเงินได้สุทธิเท่าไหร่ จึงนำมาคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นอัตราก้าวหน้าตั้งแต่ 5-35% หากเงินได้สุทธิไม่เกินปีละ 150,000 บาทจะได้รับการยกเว้นภาษี  

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

สรุป: ผู้มีรายได้ตามเกณฑ์ขั้นต่ำคือ เงินเดือนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท หรือหากรวมรายได้อื่นแล้วมากกว่า 15,000 บาทต่อเดือนสำหรับคนโสด หรือกรณีสมรสแล้ว มีเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 18,000 บาทหรือรวมรายได้อื่นแล้วไม่ต่ำกว่า 28,000 บาท มีหน้าที่ต้องยื่นแบบเสียภาษี ไม่ว่าเมื่อคำนวณภาษีแล้วจะมีภาระภาษีหรือไม่ก็ตาม