“สันติ” สั่ง กรมศุลฯ ขอ “สุนัข K9” ช่วยงาน หลังพบเฮโรอีนซุกไม้โผล่ไต้หวัน

01 ธ.ค. 2564 | 09:38 น.

“สันติ” รมช.คลัง ลงตรวจงานกรมศุลกรฯ ปิดช่องโหว่ หลังพบยาเสพติดซุกไม้โผล่ไต้หวัน ทำไทยเสียชื่อ รับผู้ทำผิดกฎหมายจ้องหาช่องโหว่เลี่ยงการตรวจจับของเครื่องเอกซเรย์ สั่ง ประสานตำรวจสุนัข ตั้งทีมเฉพาะกิจช่วยดมกลิ่นหายาเสพติด

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังลงพื้นที่รับฟังบรรยายและการสาธิตขั้นตอนการตรวจตู้คอนเทนเนอร์สินค้าส่งออก ที่กรมศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพฯ ว่า เนื่องจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องความเข้มงวดในการตรวจสินค้าที่ส่งออกจากไทย หลังพบไทยมีความล่อแหล่มถูกใช้เป็นทางผ่านในการขนยาเสพติด ซึ่งล่าสุด กรณี เฮโรอีน กว่า 446 กก. มูลค่าราว 6 พันล้านบาท ซุกซ่อนอยู่ในแท่งไม้ ซึ่งเป็นไม้จากประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งผ่านไทยไปไต้หวัน ซึ่งทำให้ไทยเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้กรมศุลกากร ประสานไปยังตำรวจสุนัข K9 ให้มาตั้งจุดประจำเพื่อช่วยดมกลิ่น กรณีที่ตู้คอนเทนเนอร์สินค้าที่ส่งออกมีความผิดปกติ แต่เครื่องเอกซเรย์ตรวจไม่พบ

 

“หากเครื่องเอกซเรย์ตรวจไม่พบ และดูด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่เจ้าหน้าที่มีความสงสัยในตู้ดังกล่าว ก็ให้ใช้สุนัขตำรวจเข้ามาช่วยดมกลิ่น โดยให้ประสานขอสุนัขตำรวจ K9 มาประจำที่ด่านกรมศุลฯ ส่วนจะประจำทุกด่านหรือไม่ ให้ดูตามความเหมาะสม แต่ที่ด่านกรุงเทพจะต้องมี ซึ่งกรณีเฮโรอีนซุกในไม้นั้น เนื่องจากไม้มีจำนวนถึง 2,000 แผ่น แต่มีการซุกซ่อนเฮโรอีน 100 แผ่น ทำให้เครื่องเอกซเรย์ตรวจจับไม่ได้ ซึ่งต่อไปก็ให้ใช้สุนัขตำรวจเข้ามาช่วยในการดมกลิ่น” นายสันติ กล่าว

 

“สันติ” สั่ง กรมศุลฯ ขอ “สุนัข K9” ช่วยงาน หลังพบเฮโรอีนซุกไม้โผล่ไต้หวัน

นายสันติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กรมศุลกากร ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ส่งออกสินค้า โดยบางรายให้ส่งเอกสารสำแดงสินค้าตามมาทีหลังได้ ทำให้เกิดกรณีสำแดงสินค้าไม่ตรงกับสินค้าที่ส่งออกจริง พร้อมยอมรับว่า การตรวจสอบสินค้าที่ส่งออกทุกชิ้นนั้นอาจยากลำบาก จึงได้กำชับให้เพิ่มรายละเอียดในการเช็คลิสในขั้นตอนการตรวจ และเพิ่มข้อมูล เช่น ประเทศปลายทางอาจมีสินค้าประเภทนี้จำนวนมาก และไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้าจากไทยเพิ่ม ก็อาจทำให้เกิดข้อสงสัยได้ว่า มีสินค้าผิดกฎหมายซุกซ่อนหรือไม่ เป็นต้น

 

“สันติ” สั่ง กรมศุลฯ ขอ “สุนัข K9” ช่วยงาน หลังพบเฮโรอีนซุกไม้โผล่ไต้หวัน

ด้านนายพชร  อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลฯได้เข้มงวดการส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง และมีการจับการลักลอบส่งออกยาเสพติดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง เนื่องจากประเทศไทย เป็นทางผ่านในการส่งออกยาเสพติด ซึ่งกรมศุลฯ ได้ประสานงานกับทุกฝ่ายในการดำเนินการจับกุมและสกัดกั้นการส่งออกมาโดยตลอด 

 

“เราต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าจากไทย จะไม่ค่อยตรวจสินค้ามากนัก ส่วนใหญ่จะตรวจสินค้านำเข้าประเทศ  เพราะผู้ส่งออก ต้องเร่งให้ส่งออกเร็ว จึงสุ่มตรวจเพียง 10% ของสินค้าส่งออกเท่านั้น แต่จากนี้ไปจะเข้มงวดการส่งออกของผู้ส่งออกมากยิ่งขึ้น และเพิ่มสัดส่วนสุ่มตรวจเป็น 20%  เบื้องต้นได้หารือกับผู้แทนศุลกากรแต่ละประเทศรวมถึงผู้ส่งออกด้วย เนื่องจากการสุ่มตรวจเพิ่มขึ้นนั้น อาจกระทบต่อการส่งออก ทำให้ล่าช้าไปบ้าง ขณะเดียวกันต้องร่วมมือกับกรมศุลฯ ต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการลักลอบขนส่งยาเสพติดระหว่างกัน” นายพชร  กล่าว