ก.ล.ต.เพิ่มความผิดเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นคดีพิเศษ

10 พ.ย. 2564 | 09:54 น.

ก.ล.ต.จับมือ DSI เดินหน้ายกระดับการทำงานร่วมกันเชิงรุก เตรียมเพิ่มลักษณะความผิดเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในบัญชีท้าย พ.ร.บ. ว่า ด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ก.ล.ต.ได้ประชุมร่วมกับนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อหารือถึงแนวทางการยกระดับการทำงานร่วมกันในเชิงรุก ทั้งด้านกระบวนการสืบสวนและตรวจสอบเกี่ยวกับการกระทำผิดในตลาดทุน อันเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อสังคมและประชาชน 

ก.ล.ต.เพิ่มความผิดเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นคดีพิเศษ

 

รวมทั้งจะมีการพิจารณากำหนดความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพิ่มในบัญชีท้ายประกาศ กคพ. ออกตามความในมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547

การประชุมครั้งนี้ ยังได้มีการหารือกันถึงประเด็นการเชื่อมโยงข้อมูลและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่ง ก.ล.ต. มีนโยบายในการนำเครื่องมือ e-enforcement เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการกระทำความผิดเกี่ยวกับตลาดทุน และอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางในการตั้งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 

ก.ล.ต.เพิ่มความผิดเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นคดีพิเศษ

 

นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันวางแผนและพัฒนาองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรให้เพิ่มขึ้นผ่านการจัดอบรมหลักสูตรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
 

ทั้งนี้ แนวทางในการทำงานร่วมกันดังกล่าวเป็นไปตามกรอบของบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษและ ก.ล.ต. ได้ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายมีความรวดเร็วและรัดกุมยิ่งขึ้น อีกทั้งครอบคลุมการให้ความร่วมมือด้านการสนับสนุนด้านบุคลากร องค์ความรู้ และเทคโนโลยีระหว่างกัน

 

ก.ล.ต.เพิ่มความผิดเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นคดีพิเศษ