เตือนระวังใช้บริการผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต

15 ต.ค. 2564 | 07:25 น.

ก.ล.ต. เตือนประชาชนและผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้ระมัดระวังการใช้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศ เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย

 

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ผู้ที่ให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยน รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายดังกล่าว โดยผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ Binance ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศ กรณีให้บริการที่เข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.ก. ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลฯ
 

“ก.ล.ต. จึงขอเตือนประชาชนและผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้ระมัดระวังการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล รับฝาก โอน ถอนเงิน หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศ เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวง (scam) อีกด้วย” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว

 

เตือนระวังใช้บริการผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th หัวข้อ สินทรัพย์ดิจิทัล หรือทางแอปพลิเคชัน “SEC Check First” และหากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึก ในกรณีที่ตรวจพบว่ามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. มีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป