'ซาฟารี' ลงทุน 'คาร์นิวัลเมจิก' เพิ่มเท่าตัวแตะ 3.4 พันล้าน

03 ก.ค. 2560 | 07:19 น.
บอร์ด "ซาฟารีเวิลด์" ชงผู้ถือหุ้นขยายขนาดลงทุนโครงการคาร์นิวัลเมจิก จาก 1,450 ล้านบาท เป็นงบลงทุนใหม่ 3,400 ล้านบาท

safari-world-1 นางอาภา คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAFARI เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ความเห็นชอบการขยายขนาดการลงทุนโครงการสร้างแหล่งท่องเที่ยวธีมปาร์คแห่งใหม่ในจังหวัดภูเก็ต (โครงการคาร์นิวัลเมจิก) ของกลุ่มบริษัท เพิ่มเติมจากงบลงทุนเดิม 1,450 ล้านบาท เป็นงบลงทุนใหม่ 3,400 ล้านบาท โดยจะนำเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 ก.ย.2560

บริษัทกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 31 ก.ค. 2560 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 1 ส.ค. 2560

นอกจากนี้คณะกรรมการได้อนุมัติการแต่งตั้งบริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นการเข้าทำรายการดังกล่าว

โลโก้ ซาฟารี บริษัทมองการลงทุนดังกล่าวเป็นการขยายการลงทุนในธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ (BOI) ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามระยะเวลาและเงื่อนไขเฉพาะโครงการ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัทฯ และเมื่อโครงการเปิดดำเนินธุรกิจแล้วประมาณกลางปี 2561 จะสามารถส่งเสริมและสร้างความเติบโตของรายได้ที่มั่นคงให้แก่บริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกำไรและกระแสเงินสดกลับมายังบริษัทฯ และจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ

สำหรับเงินลงทุนในโครงการทั้งสิ้น 3,400 ล้านบาท โดยมีแหล่งเงินทุนจากทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของ บริษัทคาร์นิวัลเมจิก จำนวน 500 ล้านบาท และเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ที่ได้อนุมัติวงเงินกู้ให้คาร์นิวัลเมจิก รวม 660 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้เบิกใช้วงเงิน และวงเงินกู้ให้ภูเก็ตแฟนตาซีเพื่อสนับสนุนการจัดซื้อที่ดินที่ใช้ในโครงการคาร์นิวัลเมจิกจำนวน 220 ล้านบาท วงเงินจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ 40 ล้านบาท รวม 920 ล้านบาท

นอกจากนี้จะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินและหรือบุคคลอื่น รวมถึงการออกและเสนอขายตราสารหนี้ต่างๆ ของกลุ่มทั้งในปัจจุบันและจะจัดหาเพิ่มในอนาคตในวงเงินรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท รวมถึงมาจากกระแสเงินสดจากการดำาเนินงานของกลุ่มบริษัท และการเพิ่มทุนจดทะเบียนที่อาจจะมีขึ้นในอนาคต