“บังจู” เตือนผู้ค้าไข่ไก่อย่าสต็อกเกิน—จับตาราคาปรับลงช่วงกินเจ

11 ต.ค. 2568 | 08:05 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ต.ค. 2568 | 01:24 น.

สมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทยเผย ตลาดไข่เงียบตั้งแต่กันยายน เหตุเศรษฐกิจชะลอ ปริมาณไข่ล้นตลาด เตือนผู้ค้าอย่ากักตุนเกินจำเป็น คาดราคามีแนวโน้มปรับลงช่วงเทศกาลกินเจ 21–29 ต.ค.นี้

KEY

POINTS

  • ตลาดไข่ไก่ซบเซาจากปริมาณผลผลิตที่ล้นตลาดและเศรษฐกิจชะลอตัว คาดว่าราคาจะปรับลดลงอีกในช่วงเทศกาลกินเจ
  • “บังจู” เตือนผู้ค้าให้ระมัดระวังการสต็อกสินค้า ไม่ควรซื้อไข่ไก่ตุนไว้เกินความจำเป็นในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอน
  • สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่เสนอให้เกษตรกรเร่ง “ปลดไก่” เพื่อช่วยลดปริมาณไข่ส่วนเกินในระบบและรักษาเสถียรภาพราคา

นายสุธาศิน อมฤก หรือ “บังจู” เลขานุการสมาคมการค้าผู้ค้าไข่ไทย เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ถึงสถานการณ์ตลาดไข่ไก่ ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ว่า บรรยากาศการค้าขายยังคงซบเซาต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา และเริ่มเห็นสัญญาณชัดเจนว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ค่อยดี มีแนวโน้มว่าราคาไข่ไก่อาจปรับลดลงในช่วงสัปดาห์หน้า หรืออย่างช้าก็ในเทศกาลกินเจ ระหว่างวันที่ 21–29 ตุลาคม 2568

“บังจู” เตือนผู้ค้าไข่ไก่อย่าสต็อกเกิน—จับตาราคาปรับลงช่วงกินเจ

“ขณะนี้ปริมาณไข่ไก่ในตลาดมีมากเกินความต้องการ โดยเฉพาะไข่เบอร์ใหญ่ 0, 1 และ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปลายปี 2566 และ 2567 สถานการณ์ปีนี้ถือว่าหนักกว่า โดยจะเห็นผลชัดที่สุดตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงพฤศจิกายน”

สำหรับความต้องการบริโภคไข่ไก่ในประเทศชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่ถือเป็น “โอกาสของผู้บริโภค” ที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งโปรตีนคุณภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมเตือนผู้ค้าระมัดระวังการสต็อกสินค้า ไม่ควรซื้อเกินความต้องการในช่วงที่ตลาดนิ่ง

ส่วนกรณีการซื้อขายไข่ไก่ผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ขณะนี้ยังไม่เห็นความชัดเจน อีกทั้งมีความกังวลเรื่องภาษีที่อาจถูกเก็บย้อนหลัง ซึ่งต้องรอดูท่าทีจากภาครัฐและการตอบรับของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดและตลาดนัดว่าจะมีความตื่นตัวมากน้อยเพียงใด แต่โดยภาพรวม มองว่าโครงการลักษณะนี้จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและหมุนเวียนเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง

 

ด้านนายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ในช่วงออกพรรษาและปิดเทอมที่ยาวต่อเนื่องถึงเทศกาลกินเจ ถือเป็นจังหวะสำคัญที่ผู้เลี้ยงควรเร่ง “ปลดไก่” เพื่อลดปริมาณไข่ในระบบ ช่วยภาครัฐรักษาเสถียรภาพราคา พร้อมทั้งขอความร่วมมือเกษตรกรให้รักษาวินัยในระบบ เพื่อให้ตลาดไข่ไก่กลับเข้าสู่สมดุล

“ช่วงนี้ยังมีการผลักดันการส่งออกไข่ไก่ไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งตลาดประจำและตลาดใหม่ในตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นสัญญาณดี แม้จะยังอยู่ในระดับจำกัด แต่ก็ช่วยระบายผลผลิตส่วนเกินได้บางส่วน” นายมาโนชกล่าวย้ำในตอนท้าย