อุตฯ มันสำปะหลัง ส่อโคม่า ผลผลิตหด-ชาวไร่ ชิ่งหนีหันไปปลูกพืชอื่นที่ได้เงินมากกว่า

20 ก.ย. 2568 | 05:25 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ย. 2568 | 05:25 น.

พิษโรคใบด่าง เขย่าอุตฯมันสำปะหลังส่งออกระส่ำ ผลผลิตเหลือ 22.83 ล้านตัน ซ้ำเติมชาวไร่หนีหันไปปลูกพืชอื่นได้เงินมากกว่า

 

อุตฯ มันสำปะหลัง ส่อโคม่า ผลผลิตหด-ชาวไร่ ชิ่งหนีหันไปปลูกพืชอื่นที่ได้เงินมากกว่า

นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช ประธานคณะสำรวจภาวการณ์ผลิตและการค้ามันสำปะหลัง ฤดูการผลิตปี 2568/69 เปิดเผยผลสำรวจ 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ดำเนินการสำรวจภาวการณ์ผลิตและการค้ามันสำปะหลัง พบว่าผลผลิตมันสำปะหลังของประเทศเผชิญวิกฤตหนัก ผลผลิตรวมลดลงเหลือ 22.83 ล้านตัน หดตัวถึง ร้อยละ 8.61  จากฤดูการผลิตปีก่อน แม้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่พื้นที่เพาะปลูกกลับลดลงกว่า 8.4 แสนไร่ สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่กำลังกดดันเกษตรกรทั่วประเทศ

“รายได้ไม่คุ้มกับการเพาะปลูก อันเนื่องมาจากผลผลิตต่อไร่ลดลง จากปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลังที่ยังคงแพร่ระบาด เกษตรกรจำนวนมากขาดแคลนพันธุ์ทนโรคและปลอดโรค ทำให้การระบาดลุกลามในหลายพื้นที่ ประกอบกับปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และปัญหาแรงงานขาดแคลน ซ้ำเติมด้วยสภาพอากาศแปรปรวนที่ทำให้ผลผลิตเสียหาย มีผลทำให้เกษตรกรหันไปปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และอ้อยโรงงาน เป็นต้น หากไม่มีมาตรการรองรับอย่างจริงจังอาจกระทบต่อความมั่นคงของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยทั้งระบบ”

 

อย่างไรก็ดีทางคณะสำรวจฯ จึงเสนอให้ภาครัฐและเอกชน เร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือ ดังนี้

  • เร่งผลิตพันธุ์มันสำปะหลังที่ทนโรงและปลอดโรคให้เกษตรกรอย่างเพียงพอ
  • ส่งเสริมการตรวจแปลงและคัดเลือกท่อนพันธุ์สะอาด
  • สนับสนุนเทคโนโลยีการผลิต เช่น ระบบน้ำหยด เกษตรแม่นยำ และเครื่องจักรกล
  • ปรับปรุงระเบียบการขนย้ายท่อนพันธุ์ที่เป็นอุปสรรค
  • สนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อลดต้นทุนเกษตรกร

นายบุญชัย กล่าวว่า วิกฤตมันสำปะหลังครั้งนี้มิใช่เป็นเพียงปัญหาด้านปริมาณผลผลิต แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงความเปราะบางของเกษตรกรไทย หากไม่เร่งแก้ไขอาจกระทบความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก