นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกรณี นายนรุตม์ ธัญวงษ์ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ถึงโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 และโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69 ทั้ง 2 โครงการ ภายในกรอบวงเงินทั้งสิ้น 45,190.85 ล้านบาท
ในส่วนของการดำเนินงาน มี 3 ข้อ ที่สำคัญคือในข้อที่ 3 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการกำหนดให้เกษตรกรลงทะเบียนการประกอบอาชีพผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำมาใช้ในการติดตามและจัดทำแผนปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชของเกษตรกรให้เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรลดรายจ่าย เพิ่มผลผลิต และมีรายได้เพิ่มขึ้นได้อย่างยั่งยืนต่อไป
“คาดจะเรียกประชุมในเร็ว ๆ นีี้ เรื่องการจ่ายผ่านช่องทางไหน ในอดีตก็มีวิธีจ่ายผ่านช่องทาง ธ.ก.ส. อย่างไรก็ดีเพื่อรับฟังความคิดเห็นและให้ได้ข้อสรุปว่าจะใช้วิธีใด จะใช้ช่องทางเดิม หรือ แอปทางรัฐ เพื่อที่จะได้เป็นทางออกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดีก็เข้าใจปัญหาและความต้องการ ซึ่งทางกระทรวงฯจะใช้ทุกมิติในการแก้ไขปัญหา และเดินไปกับพี่น้องชาวนาได้”
ขณะที่แหล่งข่าวจากกรมการข้าว กล่าวว่า นายชิษณุชา บุดดาบุญ รองอธิบดีกรมการข้าว ปฎิบัติราชการแทนอธิบดีกรมการข้าว ได้ออกหนังสือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกประชุมการดำเนินโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 และโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69 ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา แต่ผลสุดท้ายไม่ได้ประชุม และได้เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด