"ไทย-จีน"ลงนามพิธีสารฯ ดันส่งออกผลไม้ 1.8 แสนล้าน เริ่ม 1 ก.ย.

14 ส.ค. 2568 | 10:08 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2568 | 10:09 น.

“อรรถกร” แจ้ง ข่าวดี “ไทย- จีน” จับมือ ลงนามพิธีสาร ขยายด่านนำเข้า – ส่งออกเพิ่ม 5 ด่าน เปิดโอกาสผลไม้ไทย สู่แดนมังกรเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนล้านบาท เริ่ม 1 ก.ย.นี้

ไทยและจีนบรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่ เพิ่มจุดนำเข้า–ส่งออกผลไม้รวม 5 ด่านภายใต้พิธีสารขนส่งผลไม้ผ่านประเทศที่สามเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มช่องทางการส่งออกใหม่ ลดความแออัดด่านเดิม และกระจายผลไม้ไทยสู่มณฑลต่าง ๆ ของจีนได้รวดเร็วขึ้น

"ไทย-จีน"ลงนามพิธีสารฯ ดันส่งออกผลไม้ 1.8 แสนล้าน เริ่ม 1 ก.ย.

นายอรรถกรศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกันในการปรับปรุงภาคผนวกของพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการขนส่งผลไม้ผ่านประเทศที่สามโดยเพิ่มด่านนำเข้า–ส่งออกผลไม้ของทั้งสองประเทศ เพื่อยกระดับความคล่องตัวด้านการขนส่งสินค้าเกษตรและขยายโอกาสทางการตลาด

ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ประสานงานและหารือกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) มาอย่างต่อเนื่อง จนบรรลุข้อตกลงเพิ่มด่านในครั้งนี้ โดยฝ่ายไทยเพิ่ม 3 ด่าน ได้แก่ด่านทุ่งช้าง จังหวัดน่าน,ด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยาและด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ขณะที่ฝ่ายจีนเพิ่ม 2 ด่าน ได้แก่ด่านเมิ่งคังและด่านต๋าลั่วในมณฑลยูนนาน ทำให้ด่านในพิธีสารในการที่จะส่งออกผลไม้สดเพิ่มเป็น9 ด่านฝั่งไทยและ12 ด่านฝั่งจีน

 

"ไทย-จีน"ลงนามพิธีสารฯ ดันส่งออกผลไม้ 1.8 แสนล้าน เริ่ม 1 ก.ย.

 

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า “การเพิ่มด่านครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเปิดเส้นทางขนส่งใหม่ เป็นการเพิ่มโอกาสและศักยภาพแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการขนส่งของเกษตรกรในพื้นที่ ลดความแออัดของด่านเดิมในช่วงฤดูกาลผลไม้ ในการกระจายสินค้าไปยังมณฑลต่าง ๆ ของจีน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผลไม้ไทยในตลาดจีนอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะเกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมคือ ผู้ประกอบการมีตัวเลือกเส้นทางขนส่งมากขึ้น ลดปัญหาคอขวดในช่วงที่มีผลไม้ส่งออกไปยังจีนมาก และช่วยกระจายผลผลิตเข้าสู่จีนได้รวดเร็วและทั่วถึงยิ่งขึ้น”

นายชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า พิธีสารฉบับนี้ลงนามเมื่อ 13 กันยายน 2564 ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย กับ GACC เพื่อกำหนดมาตรการกักกันโรคและตรวจสอบผลไม้ที่ส่งออก–นำเข้าทางบกผ่านประเทศที่สาม โดยไม่จำกัดเส้นทาง และสามารถปรับเพิ่มด่านนำเข้า-ส่งออกได้หากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน

"ไทย-จีน"ลงนามพิธีสารฯ ดันส่งออกผลไม้ 1.8 แสนล้าน เริ่ม 1 ก.ย.

 

ภายใต้บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชไทย–จีน ซึ่งมี มกอช. เป็นผู้ประสานหลักของไทยซึ่งการส่งออกผลไม้สดของไทยไปจีนในปี 2567 คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท โดยจีนยังคงเป็นตลาดหลักของผลไม้ไทย และมีบทบาทสำคัญต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศทั้งนี้ หลังจากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้เพิ่มด่านส่งออก-นำเข้าทั้ง 5 ด่านแล้วจะสามารถนำเข้าส่งออกผลไม้สดผ่านด่านเหล่านี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568เป็นต้นไป อันจะเป็นการเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดการค้าสินค้าเกษตรของไทยต่อไปในอนาคต

"ไทย-จีน"ลงนามพิธีสารฯ ดันส่งออกผลไม้ 1.8 แสนล้าน เริ่ม 1 ก.ย.