"อารดา เฟื่องทอง" ปั้นมันสำปะหลังไทยขึ้นแท่นผู้นำโลก ลุยจัด WTC 2025 ขยายตลาดส่งออก

26 ก.ค. 2568 | 23:37 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ค. 2568 | 03:01 น.

"อารดา เฟื่องทอง" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เผยทิศทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย สู่ความยั่งยืน ดันไทยครองแชมป์ส่งออกโลก พร้อมจัดสัมมนา WTC 2025 สร้างโอกาสทางการค้าใหม่ทั่วโลก

ปัจจุบันไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับ 1 ของโลก โดยถือครองส่วนแบ่งตลาดระดับโลกมากกว่า 50–60% อย่างต่อเนื่อง แม้ปี 2568 ปริมาณการส่งออกจะเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าการส่งออกกลับลดลงสาเหตุหลักเนื่องจากราคามันสำปะหลังในตลาดโลกลดลง "ฐานเศรษฐกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "อารดา เฟื่องทอง" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ถึงทิศทางและนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย รวมถึงจัดงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลก ปี 2568

"ไทยครองแชมป์ส่งออก ตั้งเป้า 7.5 ล้านตัน"

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรกว่า 740,000 ครัวเรือน และนำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่าแสนล้านบาท ด้วยศักยภาพด้านการผลิตและคุณภาพมาตรฐานในระดับสากล ของมันสำปะหลังไทย ทำให้ประเทศไทยครองความเป็นผู้นำในการส่งออกมันสำปะหลังอันดับหนึ่งของโลกมาอย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2567 ไทยสามารถส่งออกมันสำปะหลัง รวม 6.47 ล้านตัน สร้างรายได้ให้กับประเทศกว่า 110,255 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม - มิถุนายน) ไทยส่งออกได้ปริมาณ 5.02 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 39.44% จากปีก่อนที่มีปริมาณส่งออกอยู่ที่ 3.60 ล้านตัน

 

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณการส่งออกจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่มูลค่าการส่งออกกลับลดลงสาเหตุหลักเนื่องจากราคามันสำปะหลังในตลาดโลกลดลงมาตั้งแต่ต้นปี 2568 โดยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 54,640.82 ล้านบาท ลดลง 11.10% จากปีก่อน ที่มีมูลค่าประมาณ 61,466.63 ล้านบาท ขณะที่เป้าส่งออกทั้งปีอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน

ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ให้ความสำคัญกับการดูแลทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย ทั้งบูรณาการการทำงานและแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลาย เพื่อยกระดับศักยภาพในทุกมิติให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน รวมถึงผลักดันการขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลังไทยอย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมาได้จัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนไทยเดินทางไปขยายตลาดการค้ามันสำปะหลัง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศซาอุดีอาระเบีย และจัดกิจกรรมลงนามใน MOU และสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการมันสำปะหลังไทยและหน่วยงานนำเข้ายักษ์ใหญ่ด้านการค้าสินค้าเกษตรของจีน

"ลุยจัด WTC 2025 ดันมันสำปะหลังไทยสู่ตลาดโลก"

นางอารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยสู่เวทีการค้าโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงได้จัดงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลก ภายใต้แนวคิด “Thailand Tapioca Next : GO Global Go Together” ระหว่างวันที่ 29 - 30 กรกฎาคม 2568 เป็นเวทีในการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนความรู้ และแนวคิดใหม่ๆ ที่จะช่วยต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง รวมทั้งสร้างโอกาสในการเจรจาการค้าระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าจากทั่วโลก รวมถึงรับทราบทิศทางการค้าและแนวโน้มความต้องการของตลาด

 

"อารดา เฟื่องทอง" ปั้นมันสำปะหลังไทยขึ้นแท่นผู้นำโลก ลุยจัด WTC 2025 ขยายตลาดส่งออก

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังทั้งในและต่างประเทศทั่วโลกกว่า 1,000 ราย เข้าร่วมงาน อาทิ ผู้แทนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจีน ผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าต่างชาติ จากหลายภูมิภาคทั่วโลกกว่า 16 ประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น และจากหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์ที่สำคัญเพื่อเปิดรับนวัตกรรมใหม่และรับมือกับความท้าทายใหม่ของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยในเวทีโลก ประกอบด้วยกิจกรรม ดังนี้

วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรม มิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ จะมีการเสวนาในหัวข้อ “จากไร่มันฯ สู่อนาคต : เส้นทางอุตสาหกรรมมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืน” “Smart Roots, Green Future: Advancing Tapioca Sustainability” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาร่วมให้ความรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการขยายตลาด และเพิ่มความ สามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง 

โดยผู้เข้าร่วมงานกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย ผู้นำเข้า ผู้ค้าและผู้แทนจากหน่วยงานรัฐบาลต่างชาติ

วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ บรรยายในหัวข้อ “มัน...ไม่ธรรมดา : รับมือการค้าโลกใหม่ เปิดมุมมองโอกาสและความท้าทาย” โดยผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมมันสำปะหลังมาให้ความรู้ การวิเคราะห์เกี่ยวกับทิศทางสถานการณ์การค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งถ่ายทอดแนวทางการปรับเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาสทางการค้า เพื่อให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยคงความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก

 

"อารดา เฟื่องทอง" ปั้นมันสำปะหลังไทยขึ้นแท่นผู้นำโลก ลุยจัด WTC 2025 ขยายตลาดส่งออก

 

นอกจากนี้ จะมีการจัดพิธีลงนามสัญญาซื้อขายมันสำปะหลังระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าต่างชาติ การจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้นำเข้า ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกมันสำปะหลังได้พบปะเจรจาการค้า รวมถึงการจัดประชุมกลุ่มย่อย โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันเส้น/มันอัดเม็ด แป้งมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากมันสำปะหลัง

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการเพื่อนำเสนอให้เห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยแบบครบวงจร ซึ่งมีความต่อเนื่องและสอดคล้องกัน ทั้งระบบ โดยแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่

  • โซนนิทรรศการต้นน้ำที่จะนำเสนอความสำคัญของมันสำปะหลังในช่วงการเพาะปลูก
  • โซนนิทรรศการกลางน้ำที่มีการจัดแสดงสินค้าที่แปรรูปจากมันสำปะหลัง ประกอบด้วย มันเส้น มันอัดเม็ด กากมันอัดเม็ด และแป้งมันสำปะหลัง
  • โซนนิทรรศการปลายน้ำที่จัดแสดงสินค้ามันสำปะหลังที่มาจากงานวิจัย ซึ่งสามารถต่อยอดและแปรรูปเป็นสินค้าเกษตรแปรรูปหรือสินค้านวัตกรรมที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ใกล้จะสามารถนำไปขยายผลในเชิงพาณิชย์ได้แล้วถึง 11 ผลงาน

"การจัดงาน WTC 2025 จะมีความแตกต่างและแปลกใหม่กว่าครั้งที่ผ่านๆ มา เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับมันสำปะหลังไทยสู่เวทีการค้าโลก ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อีกทั้งจะส่งผลดีต่อการค้ามันสำปะหลังไทยเป็นอย่างมาก"

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 กรมฯ มีแผนจัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนไทยเดินทางไปเจรจาขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในตลาดที่มีศักยภาพ อาทิ ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังเข้าสู่อุตสาหกรรมต่อเนื่องที่หลากหลายมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมอาหาร กาว กระดาษ เป็นต้น

 

"อารดา เฟื่องทอง" ปั้นมันสำปะหลังไทยขึ้นแท่นผู้นำโลก ลุยจัด WTC 2025 ขยายตลาดส่งออก