สืบเนื่องจากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้มีมติและสั่งการให้กรมการข้าว ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ร่วมกับ ธ.ก.ส. จัดทำโครงการและหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง 2568 กับกรมส่งเสริมการเกษตรพร้อมรายละเอียดงบประมาณตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เสนอคณะอนุฯด้านการผลิต ก่อนเสนอ นบข.พิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามระเบียบต่อไป
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์' อธิบดีกรมการข้าว ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด เพื่อนัดประชุมคณะอนุกรรมการ นบข.ด้านการผลิต ที่กรมการข้าวในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มี 4 วาระสำคัญ ซึ่งในวาระที่ 4 มี 4 ข้อย่อย คือ 1.จะมีพิจารณาเงื่อนไขโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีมติ นบข. เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ให้จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ไร่ละ 1,000 บาทไม่เกิน 10 ไร่ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
2.แนวทางการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวไม่เหมาะสมไปปลูกพืชทดแทนที่ให้มูลค่าสูง 3.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว และ 4.(ร่าง) ข้อเสนอเชิงนโยบายรักษาเสถียรราคาข้าวเปลือกด้วยศูนย์ข้าวชุมชน
“ล่าสุด (วันที่ 30 มิ.ย.68) เวลา 10.30 น. ผมได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่กรมการข้าว ว่า การประชุมคณะอนุกรรมการ นบข.ด้านการผลิตวันนี้ขอให้เลื่อนออกไปไปก่อน โดยขอให้รอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ มาเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลต่อ เรื่องนี้จะเลื่อนไม่มีใครว่า แต่ควรที่จะแจ้งล่วงหน้า เพราะผมได้เดินทางใกล้จะถึงกรมการข้าวที่เป็นสถานที่นัดประชุมแล้ว และที่สำคัญกรรมการบางท่านมาจากต่างจังหวัด มองแบบนี้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงชาวนาทั่วประเทศให้รับทราบทั่วกันว่า ไม่มีการประชุมในวันนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ดีทางสมาคมจะติดตามความคืบหน้าต่อไป”
ขณะที่กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งผลการขึ้นทะเบียนเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2568 มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเพาะปลูกแล้ว 851,696 ครัวเรือน เนื้อที่ปลูก 11.856 ล้านไร่ คาดว่าจะใช้งบในการจ่ายเยียวยาไร่ละ 1,000 บาท ประมาณ 7,274.41 ล้านบาท
ระเบียบวาระการประชุม