"ปาล์มน้ำมัน" เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอาง และพลังงาน โดยเฉพาะไบโอดีเซล ขณะที่การขยายพื้นที่เพาะปลูกในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตร เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ส่งผลให้เกิดข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อม
ไทยในฐานะผู้ผลิตปาล์มน้ำมันอันดับ 3 ของโลก จึงมีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่ความยั่งยืน ล่าสุด EXIM BANK จับมือ RSPO ลงนาม MOU ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยก้าวสู่มาตรฐานสากล แข่งขันได้ในตลาดโลก
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ RSPO มีเป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของไทยให้เข้าสู่มาตรฐานสากลด้านความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การเพาะปลูก เก็บเกี่ยว แปรรูป จนถึงการส่งออก เพื่อเสริมสร้างรายได้และการจ้างงานในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม พร้อมตอบโจทย์ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในเวทีการค้าโลก
“EXIM BANK มุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ภายใต้แนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) เพื่อรองรับเทรนด์โลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และเปิดโอกาสใหม่ในการส่งออกท่ามกลางข้อจำกัดด้านกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าที่เข้มข้นมากขึ้น” นายบัณฑิต กล่าว
ภายใต้ MOU ที่ลงนามกับ RSPO ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อสนับสนุนระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ตั้งแต่แหล่งปลูกถึงมือผู้บริโภค ครอบคลุมการลดการตัดไม้ทำลายป่า การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการเคารพสิทธิมนุษยชน เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของสินค้าเกษตรไทย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เน้นมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
“ความร่วมมือครั้งนี้อยู่ภายใต้กรอบ ISEAL Alliance ซึ่งเป็นกลไกระดับโลกในการผลักดันมาตรฐานความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม ช่วยสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่โปร่งใส รับผิดชอบ และยั่งยืน ซึ่ง EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมมีบทบาทเชิงรุกในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง” นายบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติม
นายมูฮัมหมัด ชาซาลีย์ Head of Certification ของ RSPO กล่าวว่า การสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันไม่ใช่เพียงหน้าที่ของผู้ใดผู้หนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ไปจนถึงผู้บริโภค เพื่อให้สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันให้เติบโตอย่างสมดุล เป็นธรรม และยั่งยืนต่อไปในอนาคต
นายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “ความรับผิดชอบร่วม - ยกระดับปาล์มน้ำมันไทยสู่ความสำเร็จในตลาดโลก” ว่า EXIM BANK พร้อมสนับสนุนความยั่งยืนในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันไทย ผ่านยุทธศาสตร์ “Sustainable Growth Escalator” ซึ่งมุ่งยกระดับธุรกิจไทยสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
โดยธนาคารมุ่งส่งเสริมความร่วมมือของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งระบบ พร้อมชูจุดแข็งของประเทศไทยที่ไม่มีประวัติเสื่อมเสียด้านสิ่งแวดล้อมหรือสิทธิมนุษยชน ต่างจากหลายประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ ทำให้ไทยมีโอกาสเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดปาล์มน้ำมันในระดับสากลได้อย่างมีศักยภาพ
ในฐานะกลไกของภาครัฐ EXIM BANK ยังเดินหน้าสนับสนุน Climate Finance อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบัน ESG Portfolio ของธนาคารคิดเป็น 40% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด และตั้งเป้าขยายสัดส่วนเป็น 50% ภายในปี 2570 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน