“นฤมล” ปิดดีลสำเร็จ ฟิลิปปินส์ไฟเขียวนำเข้าเนื้อสัตว์ดิบ

07 พ.ค. 2568 | 13:08 น.
อัปเดตล่าสุด :07 พ.ค. 2568 | 14:10 น.

ปิดดีลสำเร็จ “ นฤมล” เจรจา ฟิลิปปินส์ไฟเขียวนำเข้าเนื้อสัตว์ดิบ (เป็ด-ไก่) ครั้งแรก พร้อมรับรองโรงงานไก่ และเป็ด เรียบร้อยแล้ว กรมปศุสัตว์ยัน สามารถส่งออกได้ทันที

“นฤมล” ปิดดีลสำเร็จ ฟิลิปปินส์ไฟเขียวนำเข้าเนื้อสัตว์ดิบ

 

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ผลจากการหารือเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมากับ  H.E. Francisco P. Tiu Laurel, Jr. Secretary of the Department of Agriculture รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ ซึ่งในวันนี้ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบให้เร่งรัดการปรับแก้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ เพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือด้านการเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการของทั้งสองประเทศ และเทคโนโลยีการเกษตรในปัจจุบัน

โดยฝ่ายไทยต้องการเปิดตลาดสินค้าเกษตร คือ เนื้อสัตว์ปีก และ ผลลำไยสด จากไทยไปยังฟิลิปปินส์ ที่ให้ความสนใจนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยมากขึ้น  เพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรของฟิลิปปินส์ที่กำลังเติบโต โดยสินค้าที่ฝ่ายฟิลิปปินส์ให้ความสนใจจะนำเข้า ได้แก่ ข้าว และเนื้อสุกร

“นฤมล” ปิดดีลสำเร็จ ฟิลิปปินส์ไฟเขียวนำเข้าเนื้อสัตว์ดิบ

 

"ล่าสุดผ่านมา 2 เดือน ทางกรมปศุสัตว์ได้รับได้รับอีเมลล์จากสถานทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย แจ้งว่า หน่วยงาน National Veterinary Quarantine Service Division- BAI ให้การรับรองสถานประกอบการ 2 แห่งในประเทศไทยให้เป็นผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกดิบไปยังประเทศฟิลิปปินส์ แล้วได้รับการลงนามเรียบร้อยแล้วได้แก่ บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน)  ผู้ผลิตเป็ดรายใหญ่ ของประเทศไทย และ บริษัท พนัสโพลทรี่ กรุ๊ป จำกัด ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตร ประเภทอาหารแช่แข็ง(ไก่) เพื่อการส่งออกไปต่างประเทศ"

“นับว่าเป็นข่าวดีที่ฟิลิปปินส์เปิดตลาดอนุญาตให้ไทยส่งออกสัตว์ปีกดิบ(เป็ด ไก่) ได้ เป็นครั้งแรก กรมปศุสัตว์แจ้งว่ารอแค่ตกลงเอกสาร Health certificate แล้วเสร็จ ก็จะส่งออกได้ทันที และในช่วงแรกนี้ฟิลิปปินส์รับรองโรงงานส่งออก 2 โรงงาน คือโรงงานเป็ด 1 โรง โรงงานไก่ 1 โรง และในอนาคตคงขยายรับรองโรงงานอื่นต่อไป นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะช่วยเหลือให้เกษตรกรสามารถมีตลาดและมีรายได้เพิ่มจากการส่งออกมากยิ่งขึ้น เพราะว่าเนื้อสัตว์ดิบจะมีตลาดที่ใหญ่กว่าไก่สุกมาก”