ชาวประมงค้าน แก้ไขร่างพ.ร.บ เพิ่มเติม 3 มาตรา นัดชุมนุม 24-25 ก.พ.หน้ารัฐสภา

23 ก.พ. 2568 | 04:11 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.พ. 2568 | 07:22 น.

“มงคล” นัดชาวประมง 22 จังหวัด ตบเท้าเข้ากรุง นัดชุมนุมกดดัน 24-25 หน้ารัฐสภาค้าน แก้ไขร่าง พ.ร.บ เพิ่มเติม 3 มาตรา ที่ กมธ.วิสามัญวุฒิสภาได้แก้ไข ชี้ไม่ส่งเสริม กลับทำลายอาชีพประมงล่มสลาย

ย้อนไปเมื่อวัน 13 กุมภาพันธ์ 2568 ทาง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... โดยนายธนกร ถาวรชินโชติ รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ แถลงข่าวเรื่อง “ความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.ประมงฯ “ ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการประชุมเพื่อทบทวนร่างพระราชบัญญัติฯ และมีมติในการแก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 6 มาตรา ดังนี้

1. ตัดเหตุยกเว้นความผิด กรณีการจับหรือนำขึ้นเรือประมงซึ่งสัตว์น้ำชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำหายาก หรือใกล้สูญพันธุ์ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ในร่างมาตรา 25 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 66 เนื่องจากหากมีเหตุยกเว้นความรับผิด กรณีการจับหรือนำของสัตว์น้ำดังกล่าว แล้วปล่อยสัตว์น้ำดังกล่าวกลับสู่ธรรมชาติโดยเร็ว จะไม่มีความผิดนั้น อาจเป็นเหตุให้ประเทศคู่ค้าสินค้าประมงไทยไม่เชื่อมั่นในการทำการประมงไทยและส่งผลกระทบกับการส่งออกสินค้าประมงไทย

2. ตัดข้อยกเว้นให้สามารถใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรในเวลากลางคืนและใช้แสงไฟล่อ ในร่างมาตรา 28 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 69 เนื่องจากการทำการประมงด้วยวิธีการดังกล่าวเป็นการทำการประมงที่ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำ ตัดตอนการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำวัยอ่อน และทำลายห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ

3. แก้ไขเพิ่มเติมกรณีการกระทำที่ฝ้าฝืนมาตรา 71 (1) ให้ถือว่าเป็นการกระทำความผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงตามมาตรา 113 ซึ่งเป็นมาตรการทางปกครอง แม้เป็นการกระทำความผิดเพียงครั้งแรก

4. แก้ไขเพิ่มเติมกรอบระยะเวลาในการออกฎหมายลำดับรองให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในร่างมาตรา 70 เพื่อให้มีการออกกฎหมายลำดับรองให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัติฯ มีผลให้บังคับ เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้โดยเร็วและลดปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ทำการประมง

โดยคณะกรรมาธิการฯ จะมีการประชุมอีกครั้งในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อพิจารณารายงานการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ และคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภาในวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อบรรจุในระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภาต่อไป ซึ่งคาดว่าที่ประชุมวุฒิสภาจะพิจารณาในวันจันทร์ที่ 4 หรือวันอังคารที่ 5 มีนาคม 2568 นั้น

ชาวประมงค้าน แก้ไขร่างพ.ร.บ เพิ่มเติม 3 มาตรา นัดชุมนุม 24-25 ก.พ.หน้ารัฐสภา

ต่อกรณีดังกล่าวนี้ นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้รับการร้องเรียนจากสมาคมประมง 22 จังหวัด ไม่เห็นด้วยและขอคัดค้าน และสร้างผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวประมง จากที่ กมธ. วุฒิสภาที่ได้แก้ไข ใน 3 มาตรา คือ มาตรา 66,มาตรา 69 และมาตรา 114 (8)

ยกกรณีตัวอย่าง

1.แก้ไขมาตรา 66 เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่ว่าจะเป็นโลมาที่เคยเกิดปัญหากับชาวประมงที่ได้เกิดเหตุมีโลมาติดอวนขึ้นมาโดยบังเอิญเพียง 1 ตัวต้องถูกดำเนินคดีมาเป็นเวลาเกือบ 10 ปีและได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจนกว่าจะสู้คดีสิ้นสุด  เรือประมงถูกกักเรือเป็นเวลาเกือบ 10 ปี

(สภาผู้แทนราษฎรได้แก้ไขยกเว้นให้ไม่เป็นความผิดกรณีที่ติดอวนมาโดยบังเอิญและได้ปล่อยกลับลงทะเลไป แต่กรรมาธิการ สว.กลับแก้ไขกลับมาให้เป็นความผิดเช่นเดิม)

 

 

ชาวประมงค้าน แก้ไขร่างพ.ร.บ เพิ่มเติม 3 มาตรา นัดชุมนุม 24-25 ก.พ.หน้ารัฐสภา

 

2.แก้ไขมาตรา 69 ที่เกิดปัญหากับชาวประมงภาคตะวันออกและจังหวัดอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถออกทำการประมงได้โดยที่สมาชิกผู้แทนราษฎรได้แก้ไขให้สามารถออกทำการประมงได้ โดยมีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ในการที่จะอนุญาตให้ทำการประมงในที่พื้นที่จะอนุญาตได้ตามข้อมูลงานวิจัยและค่า MSY

(แต่กรรมมาธิการ สว.กลับแก้ไขให้กฎหมายกลับไปใช้กฎหมายเดิมที่มีปัญหาในช่วง 10 ปี ที่ทำให้ชาวประมงภาคตะวันออกและจังหวัดอื่นๆต้องล้มละลายไปเป็นจำนวนมากเพราะไม่สามารถออกทำการประมงได้)

3. แก้ไขมาตรา 114 (8) กรณีเรือประมงเข้าเขตชายฝั่งโดยไม่เจตนาที่ฝั่งสภาผู้แทนราษฎรแก้ไขในกรณีเรือประมง หากเข้าเขตชายฝั่งครั้งที่ 1 หรือเข้าเขตชายฝั่งครั้งที่ 2 ยังไม่ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงแต่ยังเป็นความผิดตามกฎหมาย ยังมีโทษปรับตามกฎหมาย แต่ไม่ถูกมาตรการทางการปกครอง ที่สั่งกักเรือ 30-90 วัน หากแต่ถ้าเมื่อเรือประมงเข้าเขตชายฝั่งครั้งที่ 3 จึงจะเป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งยังเป็นความผิดอาญาและถึงจะถูกมาตรการทางการปกครองให้สั่งกักเรือ 30-90 วัน แต่ถ้าหากถูกสั่งกักเรือประมงตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าเขตทะเลชายฝั่งทั้งที่ไม่มีเจตนา ชาวประมงก็จะเกิดความเสียหายอีกหลายแสนบาทที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจอดเรือประมงและจะไม่มีรายได้มาใช้หนี้สินและจุนเจือครอบครัวอีก 1-3 เดือน ซึ่งจะเกิดปัญหาเป็นอย่างมากกับพี่น้องชาวประมงในทุกจังหวัดชายทะเล

(แต่กรรมาธิการ สว.กลับแก้ไขให้เป็นความผิดตั้งแต่ครั้งแรก โดนทั้งคดีอาญาและโดนทั้งมาตรการทางปกครอง (สั่งกักเรือ 30-90 วัน เหมือนกฎหมายเดิม)

ชาวประมงค้าน แก้ไขร่างพ.ร.บ เพิ่มเติม 3 มาตรา นัดชุมนุม 24-25 ก.พ.หน้ารัฐสภา

นายมงคล กล่าวว่า จากปัญหาข้างต้นนี้ทางสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีการชุมนุมหน้ารัฐสภา เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายและให้มาร่วมกันเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาช่วยสนับสนุนร่าง พ.ร.บ, แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 พ.ศ....ที่ผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว (โดยที่ไม่มีการแก้ไข)เพราะได้มีทุกภาคส่วนได้ร่วมกันพิจารณาจนได้ข้อยุติไปแล้ว รวมถึงการซื้อเรือคืนด้วย ก็จะรอปรักหลักพักค้างคืนจนกว่าจะมีความชัดเจนว่าจะมีการนำเรื่องเข้า ครม.ได้เมื่อไร