"พิชัย" เยือนวอชิงตัน พบผู้นำสหรัฐฯ เจรจาการค้าการลงทุน

04 ก.พ. 2568 | 03:22 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.พ. 2568 | 03:52 น.

"พิชัย" รมว.พาณิชย์ นำทัพกระทรวงพาณิชย์ เยือนสหรัฐฯ 4-8 ก.พ. 68 เข้าร่วม National Prayer Breakfast 2025 พบผู้นำระดับสูง วางกลยุทธ์ขยายตลาด เสริมแกร่งความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ หวังผลักดันการค้าการลงทุนไทย-สหรัฐฯ สู่ความมั่นคงและยั่งยืน

วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2568) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนจะนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อกระชับและส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัฐบาลและภาคเอกชนสหรัฐฯ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสด้านการค้า การลงทุน

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

ทั้งนี้ ได้รับเชิญเข้าร่วมงาน National Prayer Breakfast 2025 ที่โรงแรม The Washington Hilton ซึ่งเป็นงานสำคัญที่จัดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2496 โดยมีผู้นำระดับสูง รวมถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าร่วมเป็นประจำ การเข้าร่วมครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนนโยบายด้านเศรษฐกิจกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เช่น สมาชิกสภาคองเกรส รัฐมนตรี ภาคเอกชน และผู้นำจากนานาชาติ 

ขณะเดียวกัน โอกาสนี้ตนจะพบกับผู้นำธุรกิจสหรัฐฯ เช่น หอการค้าสหรัฐฯ (USCC), สภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ (USABC) และบริษัทชั้นนำอย่าง Google เพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยและผลักดันให้บริษัทสหรัฐฯ ขยายการลงทุนในไทย พร้อมหารือแนวทางแก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างสองประเทศ

นายพิชัย เปิดเผยว่า ในการเยือนครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ในการเจรจาเชิงรุกเพื่อรักษาโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก่อนเดินทาง 

นอกจากนี้ ตนยังได้พบหารือกับ นายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เพื่อรับคำแนะนำจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในการเข้าเจรจาหารือด้านการค้าการลงทุนกับกลุ่มบุคคลสำคัญต่างๆ ในสหรัฐฯ อีกด้วย 

นายพิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า จะได้ใช้โอกาสนี้ซึ่งจะได้พบปะกับผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั่วโลก เน้นย้ำถึง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของรัฐบาลนายกแพทองธารว่าเป็นบวกต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 สูงถึง 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่วนมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 5.4% หรือกว่า 10.5 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ 

โดยในปีนี้กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวอีก 2-3% ทั้งมุ่งมั่นสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ตั้งแต่รายใหญ่จนถึงผู้ค้ารายย่อย ให้สามารถขยายตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น พร้อมผลักดันการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้สหรัฐฯ เป็น คู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในปี 2567 ด้วยมูลค่าการค้ารวมกว่า 74,484.81 ล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย คิดเป็น 54,956.21 ล้านดอลลาร์ ครอบคลุมสินค้าหลัก เช่น คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณี รถยนต์ และเครื่องปรับอากาศ

ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 19,528.61 ล้านดอลลาร์ เช่น น้ำมันดิบ เครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์ ส่งผลให้ไทยได้เปรียบดุลการค้า 35,427.60 ล้านดอลลาร์