KEY
POINTS
ที่ผ่านมา ‘การรถไฟแห่งประเทศไทย’ หรือ รฟท.ได้เร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้น คือ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย - เชียงราย – เชียงของ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าจากภาคเหนือไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศที่จะช่วยลดต้นทุนและเวลาในการขนส่งในอนาคต
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย - เชียงราย – เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้าง 72,835 ล้านบาท
ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา โดยผู้รับจ้างได้เริ่มงานเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 14 มกราคม 2571 ระยะเวลา 71 เดือน
โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571 ทั้งนี้ภาพรวมการก่อสร้างของดครงการฯดังกล่าว แบ่งสัญญาก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา ประกอบด้วย
1. สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย – งาว ระยะทาง 103 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้าง 26,560 ล้านบาท ความคืบหน้าร้อยละ 45.746 ล่าช้ากว่าแผนร้อยละ 5.461
โดยส่งมอบพื้นที่แล้ว 3,202 แปลง คิดเป็นร้อยละ 98.22 มีกิจการร่วมค้า ไอทีดี – เนาวรัตน์ เป็นผู้รับจ้าง ซึ่งเริ่มงานก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 4 มกราคม 2571
ด้านสัญญาที่ 2 ช่วงงาว – เชียงราย ระยะทาง 132 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้าง 26,890 ล้านบาท ความคืบหน้าการก่อสร้างร้อยละ 52.280 เร็วกว่าแผนร้อยละ 4.147
โดยส่งมอบพื้นที่แล้ว 3,417 แปลง คิดเป็นร้อยละ 96.20 โดยมีกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที - ดีซี2 เป็นผู้รับจ้าง ซึ่งเริ่มงานก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 14 มกราคม 2571
ส่วนสัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย – เชียงของ ระยะทาง 87 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้าง 19,385 ล้านบาท ความคืบหน้าการก่อสร้างร้อยละ 40.812 เร็วกว่าแผนร้อยละ 3.222
โดยส่งมอบพื้นที่แล้ว 2,445 แปลง คิดเป็นร้อยละ 97.92 โดยมีกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที - ดีซี3 เป็นผู้รับจ้าง ซึ่งเริ่มงานก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 14 มกราคม 2571
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ขณะที่การเวนคืนที่ดินและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินของโครงการฯตลอดเส้นทาง จำนวน 9,661 ไร่
ปัจจุบันพบปัญหาอุปสรรค เนื่องจากข้อมูลในเอกสารสัญญามีความคลาดเคลื่อน ทำให้กรมที่ดินออกเอกสาร รว.9 ล่าช้า
ทั้งนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีแนวทางในการแก้ไขโดยได้ประชุมติดตามงานกับทีมรังวัดของสำนักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัด (สมส.) กรมที่ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสาร รว.9 จากกรมที่ดินล่าช้า
อย่างไรก็ดีที่ปรึกษาโครงการฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในเอกสารสัญญาที่คลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง
นอกจากนี้ หากผู้ถูกเวนคืนที่ดินมีความไม่พอใจในราคาผู้ถูกเวนคืนสามารถยื่นอุทธรณ์ได้
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ได้มีการขุดเจาะทะลุอุโมงค์สอง ตั้งอยู่ในอำเภอสอง จังหวัดแพร่ มีระยะทางยาว 1.059 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอุโมงค์แห่งแรกของเส้นทางในโครงการรถไฟสายดังกล่าวคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2570
สำหรับการขุดเจาะอุโมงค์นี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของโครงการ ต่อจากอุโมงค์ดอยหลวง (จ.เชียงราย) และอุโมงค์แม่กา (จ.พะเยา) ที่เจาะทะลุก่อนหน้านี้ นับเป็น 3 ใน 4 อุโมงค์ที่เจาะทะลุสำเร็จแล้ว
เหลือเพียงอุโมงค์งาว ที่มีความยาว 6.211 กม. ซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย คาดว่าจะสามารถเจาะทะลุได้ในเดือนกันยายน 2569
ทั้งนี้อุโมงค์ทั้งหมดได้ถูกออกแบบให้เป็นอุโมงค์คู่ทางเดี่ยว (Single-Track Tunnel) มีโครงสร้างรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว พร้อมระบบระบายน้ำป้องกันน้ำท่วม และอุโมงค์หลบภัยทุกระยะ 240 เมตร เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในพื้นที่ภูเขาและร่องมรสุมภาคเหนือ
โดยเฉพาะอุโมงค์งาว ซึ่งจะเป็นอุโมงค์รถไฟที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย - เชียงราย – เชียงของ
มีสถานีรถไฟจำนวน 12 สถานี และที่หยุดรถ 13 แห่ง อุโมงค์รถไฟจำนวน 4 อุโมงค์ รวม 13.90 กิโลเมตรลานขนถ่ายสินค้า (CY) 5 แห่ง ที่ เด่นชัย พะเยา ป่าแดด เชียงราย และเชียงของ
มีจุดเริ่มต้นที่ กม.533+900 อยู่ที่สถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ และสิ้นสุดโครงการที่ กม.857+000 อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,157 วันที่ 14 - 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568