KEY
POINTS
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวผู้ว่า รฟท.ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว เบื้องต้นจะมีการนัดหารือกับผู้ว่ารฟท.ถึงสาเหตุการลาออก
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ปัจจุบันนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่า รฟท. ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่มีการลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2567 โดยนายวีริศได้เริ่มทำงานเพียง 1 ปี
ทั้งนี้หนังสือลาออกดังกล่าวจะมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาในช่วงสิ้นเดือนนี้ คาดว่าจะมีผลทันที ซึ่งเป็นการบอกกล่าวล่วงหน้า 30 วัน
สำหรับเหตุผลของการยื่นหนังสือลาออก ระบุว่าต้องการมีเวลาดูแลบิดามารดา ทั้งของตนเองและของคู่สมรสที่มีอายุมาก ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้นัดประชุมเร่งด่วนเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมาและรับทราบหนังสือลาออกของนายวีริศเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดีจากการลาออกอย่างกะทันหันของนายวีริศ คาดว่ามาจากนายวีริศได้ลงนามในหนังสือเลขที่ รฟ.อบ.1000/1792/2568 ลงวันที่ 29 ก.ย.2568 สำนักงานอาณาบาล ฟ้องเพิกถอนหรือฟ้องขับไล่ผู้ยึดถือครอบครองที่ดินเลขที่ 3466 และเลขที่ 8564 บริเวณแยกเขากระโดง ตำบนอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามหนังสือที่ ปช 0040 (บร)/1542 ลงวันที่ 12 ก.ย. 2568
ทั้งนี้พบว่าที่ดินทั้งสองแปลงที่ รฟท.จะดำเนินการฟ้องขับไล่ เบื้องต้นเป็นที่ดินอยู่ในการครอบครองของนางกรุณา ชิดชอบ (ภรรยานายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) 1 แปลงและบริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด 1 แปลง อีกทั้งการลาออกในครั้งนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งมาจากพรรคภูมิใจไทย
นอกจากนี้ยังมีปัญหาการแก้ไขสัญญาในโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา)
โดยที่ผ่านมาอัยการสูงสุดตรวจสอบร่างสัญญาแล้ว ซึ่งพบว่ามีข้อสังเกต 18 ประเด็น ที่ให้รฟท.ปรับแก้ไขเพื่อไม่ให้รัฐเสียเปรียบ ปัจจุบัน รฟท.อยู่ระหว่างหารือกับเอกชนคู่สัญญาถึงประเด็นดังกล่าว
ขณะเดียวกันการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ที่มีนโยบายให้เดินหน้าเจรจาหาทางออกใหม่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันที่จะทำตามเงื่อนไขสัญญาเดิม
ซึ่งหากการเจรจาเรื่องนี้ไม่มีบทสรุปจะนำไปสู่การบอกเลิกสัญญาก็จำเป็นต้องมีการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเสียโอกาสดำเนินโครงการ ทั้งนี้ผู้ว่า รฟท.ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามในสัญญาก็จะมีส่วนรับผิดชอบด้วย
ทั้งนี้ภายหลังจากผู้ว่ารฟท.ยื่นหนังสือลาออก ได้มีความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ซึ่งเป็นคนของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามา เบื้องต้นได้แจ้งในที่ประชุมรฟท.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หากมีการประกาศเปลี่ยนแปลงกรรมการก็พร้อมจะลาออกทันทีเพื่อเปิดทางให้คนใหม่เข้ามา
สำหรับโครงการเร่งด่วนของรฟท.ในปัจจุบัน จำนวน 7 โครงการ วงเงินรวม 691,464 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงชุมพร–สุราษฎร์ธานี วงเงิน 30,422 ล้านบาท 2.โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงสุราษฎร์ธานี–หาดใหญ่-สงขลา วงเงิน 66,270 ล้านบาท
3.โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 หาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ วงเงิน 7,772 ล้านบาท 4.โครงการรถไฟส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วงเงิน 6,473 ล้านบาท 5.โครงการรถไฟส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา วงเงิน 15,176 ล้านบาท
6.โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา-หนองคายระยะที่ 2 (ไฮสปีดไทย-จีน ) วงเงิน 341,351 ล้านบาท และ 7.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงิน 2.24 แสนล้าน