ทะลวง 57 เส้นทาง “รถเมล์ฟีดเดอร์” ปลุกแผน M-MAP2 เชื่อมรถไฟฟ้าสารพัดสี

30 ก.ย. 2568 | 22:00 น.

“กรมราง” ผ่าแผน M-MAP2 ดัน 27 เส้นทาง “รถเมล์ฟีดเดอร์” รับโครงข่ายรถไฟฟ้ารอบกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เตรียมนำร่อง 6 เส้นทางภายในปีนี้ ฟากกทม.ถกคมนาคมเพิ่มแนวเส้นทางใหม่ 30 เส้นทาง คาดได้ข้อสรุปภายในม.ค.69

KEY

POINTS

  • กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เดินหน้าแผนแม่บท M-MAP2 พัฒนาระบบขนส่งมวลชนรอง (ฟีดเดอร์) 27 เส้นทาง ระยะทางรวม 343.7 กม. เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า
  • แผนการดำเนินงานแบ่งออกเป็น 4 ระยะ โดยจะเริ่มนำร่อง 6 เส้นทางแรกภายในปี 2568 และคาดว่าจะดำเนินการครบทุกเส้นทางภายในปี 2583
  • โครงการตั้งเป้าหมายเพิ่มปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าเป็น 3.4 ล้านคนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปัจจุบัน เพื่อช่วยแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ปัจจุบัน “กรมการขนส่งทางราง” ยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะขนาดใหญ่โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

หนึ่งในหัวใจสำคัญของแผนการพัฒนานี้ คือ แผนแม่บทรถไฟฟ้า M-MAP2 และระบบขนส่งมวลชนรอง (ฟีดเดอร์) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมการเชื่อมต่อระหว่างที่อยู่อาศัยของประชาชนกับโครงข่ายรถไฟฟ้า

รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมรางฯ ได้ดำเนินการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-MAP2)ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) หรือ ไจก้า

ขณะนี้ผลการศึกษาโครงการดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งตามแผนระหว่างปี 2568 – 2583 ซึ่งจะนำร่องดำเนินการในโครงข่ายรถไฟฟ้าก่อนผลักดันเส้นทางระบบฟีดเดอร์ต่อไป

สำหรับแผนพัฒนารถไฟฟ้า M-Map2 พบว่า นอกจากเส้นทางแนวรถไฟฟ้าแล้วยังมีเส้นทางระบบขนส่งมวลชนรอง (ฟีดเดอร์) ที่เชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนได้สะดวกมากขึ้น พบว่า จากการศึกษามีเส้นทางระบบฟีดเดอร์ จำนวน 27 เส้นทาง ระยะทางรวม 343.7 กม.

โดยแบ่งระยะเวลาดำเนินการออกเป็น 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 เริ่มดำเนินการภายในปี 2568 จำนวน 6 เส้นทาง ประกอบด้วย

เส้นทาง 1-1 พระโขนง - กิ่งแก้ว ระยะทาง 16.20 กม. ,เส้นทาง 1-2 แยกรัชดา-ลาดพร้าว-แยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.72 กม.,เส้นทาง 1-3 รัชโยธิน – ท่าน้ำนนท์ ระยะทาง 10.56 กม.

เส้นทาง 1-4 แม่น้ำ - บางนา ระยะทาง 8.60 กม. ,เส้นทาง 1-5 บรมราชชนนี - หลักสี่ ระยะทาง 24 กม.,เส้นทาง 1-6 สุวรรณภูมิ - แพรกษา ระยะทาง 18.75 กม.

ส่วนระยะที่ 2 เริ่มดำเนินการภายในปี 2573 จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทาง 2-1 แพรกษา-สุขุมวิท ระยะทาง 9.54 กม. ,เส้นทาง 2-2 ราษฎร์บูรณะ - บางบอน ระยะทาง 39.44 กม., เส้นทาง 2-3 มีนบุรี - สุวรรณภูมิ ระยะทาง 10.17 กม.

เส้นทาง 2-4 คลอง 3 - คูคต ระยะทาง 6.52 กม., เส้นทาง 2-5 ตลิ่งชัน - นนทบุรี ระยะทาง 13.57 กม., เส้นทาง 2-6 รังสิต - ธัญบุรี ระยะทาง 13.42 กม. ,เส้นทาง 2-7 คลอง 6 - ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 17.84 กม.

ด้านระยะที่ 3 เริ่มดำเนินการภายในปี 2578 จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทาง 3-1 บางซื่อ - ปทุมธานี ระยะทาง 19.08 กม. ,เส้นทาง 3-2 บางใหญ่ - บางบัวทอง ระยะทาง 5.44 กม.,เส้นทาง 3-3 สุวรรณภูมิ - บางบ่อ ระยะทาง 8.28 กม.

เส้นทาง 3-4 เมืองทองธานี - ปทุมธานี ระยะทาง 11.62 กม. ,เส้นทาง 3-5 ดอนเมือง - ศรีมาน ระยะทาง 6.89 กม.,เส้นทาง 3-6 ศาลายา - มหาชัย ระยะทาง 28.13 กม.,เส้นทาง 3-7 คลอง 6 - องครักษ์ ระยะทาง 26.64 กม.

ระยะที่ 4 เริ่มดำเนินการภายในปี 2583 จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทาง 4-1 ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต - นวนคร ระยะทาง 3.97 กม.,เส้นทาง 4-2 คลองสาน - ศิริราช ระยะทาง 4.74 กม.

เส้นทาง 4-3 หัวลำโพง - พระรามที่ 3 ระยะทาง 5.56 กม.,เส้นทาง 4-4 พิบูลสงคราม - บางอ้อ ระยะทาง 1.69 กม.,เส้นทาง 4-5 แพรกษา - ตำหรุ ระยะทาง 5.27 กม.,เส้นทาง 4-6 ตำหรุ - คลองด่าน ระยะทาง 15.63 กม., เส้นทาง 4-7 รังสิต - ปทุมธานี ระยะทาง 7.43 กม.

ขณะเดียวกันตามพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้า M-Map2 ในระยะเร่งด่วนและโครงการที่มีความจำเป็น ซึ่งหากพัฒนาแล้วเสร็จในปี 2583 คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณผู้โดยสารเข้าระบบรถไฟฟ้าได้มากถึง 3.4 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

จากปัจจุบันมีเฉลี่ยราว 1.7 ล้านคน และสามารถเพิ่มปริมาณประชาชนเข้าใช้สถานีรถไฟฟ้าได้มากถึง 3.4 ล้านคน จากปัจจุบันเฉลี่ยราว 1.5 ล้านคน

รายงานข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ที่ผ่านมากทม.และกระทรวงคมนาคมได้มีการหารือถึงความร่วมมือในการบริหารจัดการด้านการจราจรเพื่อพัฒนาระบบเชื่อมโยงและจัดระบบขนส่งมวลชนที่เป็นฟีดเดอร์ (Feeder)

ทั้งนี้ในปี 2568-2569 ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาระบบการคมนาคมเพื่อเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ต่อเนื่อง

โดยศึกษาการปรับเส้นทางรถโดยสารประจำทางใหม่ในเขตกรุงเทพฯ รวมถึงการกำหนดอัตราค่าโดยสาร และแนวทางการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อเพิ่มปริมาณผู้โดยสาร รวมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรคสถานการณ์รถโดยสารสาธารณะที่ให้บริการในปัจจุบัน

ในปัจจุบันสนข.อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูล สถิติ ปัญหา รูปแบบการเดินทาง สภาพปัจจุบัน ก่อนนำไปวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคและเส้นทางที่มีปัญหาต่างๆ ต่อไป

ขณะที่การวิเคราะห์เส้นทางรถโดยสารประจำทางใหม่ทั้งระบบในกรุงเทพฯ จะนำแนวเส้นทางของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ กทม.มาพิจารณาร่วมกัน คาดว่าจะได้ข้อเสนอแนวเส้นทางใหม่ประมาณ 30 เส้นทาง ภายในปลายเดือนมกราคม 2569

รายงานข่าวจจากกทม.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ กทม.มีบริการ BMA Feeder เดินรถ Shuttle Bus เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าสู่รถไฟฟ้า โดยเป็นการให้บริการฟรีเพื่อทดสอบความต้องการของตลาด

หากมีปริมาณผู้โดยสารในระดับที่สามารถดำเนินการได้ จะเปิดให้เอกชนเข้ามาทำการเดินรถต่อไป เน้นเส้นทางที่มีความจำเป็นและเสนอกรมการขนส่งฯ ตามขั้นตอน

สำหรับรถเมล์ BMA Feeder ของกทม.ที่เปิดให้บริการฟรีนั้น จะเป็นการให้บริการรถบัสเวียน (Shuttle Bus) ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกการเดินทางสำหรับคนกรุงเทพฯ ช่วยให้ประชาชนเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะหลัก

ทั้งรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้า MRT และรถโดยสารประจำทางสายสำคัญ ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้ง่ายขึ้น 

อย่างไรก็ดีรถเมล์ BMA Feeder ซึ่งจะช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในเมือง รวมถึงมี Wi-Fi ฟรี ให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้ขณะเดินทาง

ขณะนี้ให้บริการแล้ว 7 เส้นทาง ดังนี้ 1.สายวัดปุรณาวาส - สนข. ทวีวัฒนา ที่ให้บริการวันจันทร์ - วันศุกร์ โดยงดวิ่งวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

2.สายสนข. ทวีวัฒนา - รพ. ราชพิพัฒน์ -รถไฟฟ้า MRT หลักสอง ที่เปิดให้บริการทุกวัน 3. สายดินแดง – รถไฟฟ้า BTS สนามเป้า ที่เปิดให้บริการทุกวัน 

4.สายรถไฟฟ้า MRT บางขุนนนท์ - 4 ตลาดน้ำตลิ่งชัน ที่เปิดให้บริการวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 5.สายสามเสน - ตั้งฮั่วเส็ง (เชื่อมฝั่งธนฯ) ที่เปิดให้บริการวันจันทร์ - วันศุกร์ โดยงดวิ่งวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ทะลวง 57 เส้นทาง “รถเมล์ฟีดเดอร์” ปลุกแผน M-MAP2 เชื่อมรถไฟฟ้าสารพัดสี

6.ชุมชนเคหะร่มเกล้า - รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) ลาดกระบัง ที่เปิดให้บริการทุกวัน 7. พิพิธภัณฑ์เด็กฯ (จตุจักร) - รถไฟฟ้า BTS หมอชิต ที่เปิดให้บริการวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,136 วันที่ 2 - 4 ตุลาคม พ.ศ. 2568