“สุริยะ” สั่ง รฟท.รื้อแผนจัดซื้อรถไฟ 5.8 หมื่นล้าน ปักธงได้ข้อสรุป 3 เดือน

05 ส.ค. 2568 | 11:00 น.

“สุริยะ” สั่งรฟท.ปรับข้อมูลแผนจัดซื้อรถไฟ 5.8 หมื่นล้านบาท หลังติดหล่มสศช.-คลัง เหตุแผนลงทุน-จุดคุ้มทุนโครงการไม่ชัดเจน คาดใช้เวลาดำเนินการ 3-4 เดือน ก่อนชงครม.ไฟเขียวต่อไป

KEY

POINTS

  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กลับไปทบทวนแผนการจัดซื้อรถไฟและหัวรถจักร 3 โครงการ มูลค่ารวม 58,382 ล้านบาท
  • สาเหตุที่ต้องทบทวนเนื่องจากที่ผ่านมาแผนดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาพัฒน์ฯ เพราะมีประเด็นเรื่องแผนการลงทุนและจุดคุ้มทุนที่ไม่ชัดเจน
  • รฟท. อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูล โดยคาดว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ ก่อนเสนอให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอีกครั้งเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าแผนการจัดซื้อขบวนรถโดยสารและหัวรถจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 3 โครงการ วงเงินรวม 58,382 ล้านบาทประกอบด้วย 1.โครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 24,150 ล้านบาท

2.โครงการจัดหารถโดยสารทดแทนขบวนรถด่วนพิเศษ และขบวนรถด่วน พร้อมอะไหล่ จำนวน 182 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 10,502 ล้านบาท และ3.โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน วงเงินงบประมาณ 23,730 ล้านบาท นั้น

ขณะเดียวกันพบว่าทั้ง 3 โครงการที่ผ่านมาไม่เคยผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง เนื่องจากติดประเด็นในเรื่องแผนการลงทุนและจุดค้มทุนของโครงการฯที่ไม่ชัดเจน เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมได้ดึงข้อมูลกลับมาก่อนเพื่อให้รฟท.ไปปรับปรุงข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม 
 

อย่างไรก็ดีปัจจุบันรฟท.อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงข้อมูลทั้ง 3 โครงการ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือน ก่อนนำกลับมาเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณา จากนั้นจะเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง แสะสศช.พิจารณา หากผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วจะเสนอตรอคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อไป 

สำหรับโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน เป็นการจัดชุดบริการ 4 คันต่อขบวน โดยเป็นรถชั้น1 และชั้น 2 มีเป้าหมายเพื่อนำมาทดแทนขบวนรถที่ให้บริการขนส่งผู้โดยสารระยะไกลในปัจจุบัน จำนวน 10 ขบวน 

ขณะที่การนำมาเปิดเดินขบวนรถเพิ่ม รองรับการขยายเส้นทางในโครงการก่อสร้างทางคู่ระยะที่ 1 – 2 จำนวน 52 ขบวน แบ่งเป็นเส้นทางระยะกลาง 46 ขบวน และระยะไกล 6 ขบวน รวมทั้งสิ้น 62 ขบวน ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย และแผนวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย ปี 2566 – 2570 (แผนฟื้นฟูรฟท.)
 

ส่วนโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนขบวนรถด่วนพิเศษ และขบวนรถด่วน พร้อมอะไหล่ จำนวน 182 คัน เป็นขบวนรถโดยสารปรับอากาศทั้งขบวน และมีการเพิ่มจำนวนรถโดยสารชนิดนอนปรับอากาศชั้น 1 จำนวน 2 – 3 คัน รวมถึงการเพิ่มชนิดรถโดยสารประเภทนั่งปรับอากาศ จำนวน 2 – 3 คัน มาให้บริการเป็นทางเลือกตามความต้องการของผู้ใช้บริการอีกด้วย

 ซึ่งจะรองรับจำนวนผู้ใช้บริการต่อตู้ได้เพิ่มขึ้น และสามารถเพิ่มความเร็วสูงสุดจากเดิม 90 กม./ชม. เป็น 120 กม./ชม. ทำให้ผู้ใช้บริการเดินทางถึงจุดหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนด้านความปลอดภัย มีการเพิ่มระบบ CCTV ภายในห้องโดยสาร และบันไดประตูปิด – เปิดอัตโนมัติ

นอกจากนี้โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 113 คัน วงเงินงบประมาณ 23,730 ล้านบาท เป็นรถดีเซลไฟฟ้า (ไฮบริด) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันส่งเสริมและพัฒนาระบบขนส่งที่ลดการใช้น้ำมัน โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเมินการสิ้นเปลืองน้ำมันรถจักรไฮบริดลดลง 20% เมื่อเทียบกับรถจักรดีเซล ตลอดจนรองรับการให้บริการและเส้นทางรถไฟทางคู่ เพื่อให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์และรถสินค้า