นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ว่า กรณีที่นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ได้อภิปรายถึงกรณีของการก่อสร้างอาคารกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่นั้น
ปัจจุบันอาคารกระทรวงคมนาคม มีอายุการใช้งานมาแล้วกว่า 71 ปี เมื่อผมมารับตำแหน่งก็ได้เห็นถึง สภาพปัญหาความแออัด ความคับแคบของอาคารสำนักงานกระทรวงคมนาคม ขณะเดียวกัพบว่าที่จอดรถ ซึ่งไม่เพียงพอ
ทุกวันจะมีรถจอดล้ำเข้าไปบนถนนหน้ากระทรวง ไม่ต่ำกว่า 2 ช่องจราจร ไม่ต้องพูดถึงเวลาที่มีการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน ซึ่งจะมีหัวหน้าหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ถึง 22 หน่วยงานมาประชุมร่วมกัน
การจราจรหน้ากระทรวงจะติดขัด เกิดปัญหากับประชาชนที่สัญจรไปมาในทุกครั้ง รวมถึงประชาชนที่มาติดต่อกับกระทรวงก็ไม่สะดวก หาที่จอดรถไม่ได้ สร้างปัญหาในการให้บริการกับประชาชน
นอกจากนี้พื้นที่ทำงานที่จะต้องรองรับหน่วยงานสำนักงานปลัดฯ ก็ไม่เพียงพอ ทำให้หน่วยงานต้องกระจายไปอยู่ในที่ต่าง ๆ กันถึง 5 ที่ ทำให้การประสานการทำงานของกระทรวงไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาได้มีการพิจารณาที่จะปรับแบบมาใช้พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยในบริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเดินทางด้วยระบบรางในอนาคต ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟชานเมือง รถไฟระหว่างเมือง รถไฟความเร็วสูง
รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น ๆ เหมาะแก่การให้บุคลากรและเจ้าหน้าที่ ของกระทรวงคมนาคมเดินทางมาทำงานได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สามารถเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทางในเมือง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดโดยรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ตามยุทธศาสตร์ของกระทรวง
"ผมจึงเห็นว่า เนื่องจากปัญหาสถานการณ์โควิด ได้ล่วงเลยมาเป็นเวลานานแล้ว ขณะนี้จึงจำเป็นที่ต้องพิจารณาแก้ปัญหาความแออัดของกระทรวงคมนาคม จึงได้หารือสำนักงบประมาณ เพื่อของบประมาณมาจัดสร้างกระทรวงคมนาคมที่จะเริ่มในปีงบประมาณ 2569" นายสุริยะ กล่าว
ส่วนประเด็นท่ตึกกระทรวงคมนาคม มี 22 ชั้น ต้องตอบให้ชัด ว่าใครจะไปอยู่บ้าง และเอาพื้นที่ 100,000 กว่า ตร.ม. ไปทำอะไร และมีห้อง Auditorium และห้องประชุม Conventional hall 1,000 ตร.ม. ใหญ่กว่าห้องประชุมอื่นๆ ดูแล้วราคาเกินจริง ไม่หมาะสม นั้น
อาคารที่ก่าวถึงเป็นอาคารสำนักงานของกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีหน่วยงานในสังกัดทั้งหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ รวมกันถึง 22 หน่วยงาน มีบุคลากรทั้งข้าราชการ และพนักงานรวมกันกว่า 80,000 คน
อย่างไรก็ดีอาคารนี้ นอกจากที่จะสนับสนุนผู้ใช้ที่อยู่ทำงานประจำ ให้สภาพการทำงานที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว ยังต้องออกแบบให้รองรับการประชุม การสัมมนา ร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดทั้งหมด ตลอดรวมถึงมีห้องประชุมสั่งการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
สำหรับอาคารนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่ทั้งหมด 115,196 ตารางเมตร แบ่งเป็น
1. พื้นที่ห้องทำงาน 12,505 ตารางเมตร เพื่อรองรับบุคลากรสำนักงานปลัดฯ สำนักงานรัฐมนตรี และหน่วยงานระดับกรมอีก 5 กรม จำนวนประมาณ 1,200 คน
2.พื้นที่ส่วนกลาง 45,897 ตารางเมตร 3.ห้องประชุม 8,915 ตารางเมตร 4.พื้นที่จอดรถ 47,842 ตารางเมตร ซึ่งพื้นที่ส่วนที่ 2-4 นี้ใช้ร่วมกันของบุคลากรใน 22 หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงคมนาคมกว่า 80,000 คน
หากคิดง่าย ๆ ว่าตลอดระยะเวลาการใช้งาน มีผู้มาใช้ซัก 5% ของจำนวนข้าราชการและพนักงานทั้งหมด ก็มีผู้ที่หมุนเวียนมาใช้ประโยชน์ของอาคารดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 4,000 คน รวมไปถึงว่า อายุการใช้งานของอาคาร 50 ปี
ดังนั้น คิดแค่นี้ก็เกินที่จะคุ้ม เป็นการลดค่าใช้จ่ายงบประมาณของประเทศในระยะยาว ซึ่งท่านก็เป็นวิศวกร ก็น่าจะรู้ว่าการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการลงทุนโครงการนั้นจะต้องคิดตลอดอายุการใช้งานอาคาร (Life Cycle Cost) ทั้งค่าการลงทุนเริ่มต้น (Initial Investment Cost) บวกกับค่าใช้จ่ายในแต่ละปี (Operation Cost) ไม่ใช่เพียงแค่ดูจากค่าลงทุนก่อสร้างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
"การจัดทำงบประมาณของกระทรวงคมนาคม ได้คำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ได้เป็นไปดังข้อกล่าวหา ตามที่ท่านผู้อภิปรายได้จินตนาการสร้างมโนภาพที่ผิดๆ จากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน มาสร้างความสับสน เข้าใจผิดให้กับประชาชนแต่อย่างใด" นายสุริยะ กล่าว