"ทางยกระดับดอนเมือง" วอน ทล.เยียวยา 2.3 พันล้าน เซ่นพิษโควิด

28 พ.ค. 2568 | 04:33 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ค. 2568 | 04:38 น.

"บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง" ยื่นหนังสืออนุญาตโตฯ ดึงทางหลวงเยียวยา 2.3 พันล้านบาท หลังโควิดระบาดกระทบผู้ใช้บริการลดลง

รายงานข่าวจากบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT กล่าวว่า บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงเรื่องการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม

ทั้งนี้เพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามสัญญาระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัทฯในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง-ดอนเมือง (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)(สัญญาสัมปทาน) เพื่อให้กรมทางหลวงแก้ไขผลเสียต่อฐานะทางการเงินของบริษัท ซึ่งมีการยื่นคำเสนอข้อพิพาทเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2568

สำหรับสาระสำคัญของข้อพิจารณานั้น บริษัทฯ เป็นผู้รับสัมปทานเส้นทางทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) จากกรมทางหลวงฯ รวม 2 ตอนได้แก่ สัมปทานทางหลวงตอนดินแดง-ดอนเมือง และสัมปทานทางหลวงตอนดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน

โดยระหว่างอายุสัญญาสัมปทานระหว่างปี 2563-2565 ปรากฏการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 รายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาสัมปทาน ส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่ใช้ทางหลวงสัมปทานทางหลวงเดิม และสัมปทานทางหลวงตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือ ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

ดังนั้นบริษัทจึงได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทาน โดยแจ้งเหตุสุดวิสัยให้กรมทางหลวงทราบ

ต่อมา บริษัทได้รับผลกระทบต่อฐานะทางการเงินอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยดังกล่าว จึงมีหนังสือขอให้กรมทางหลวงแก้ไขผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ตามหน้าที่ของบริษัทฯ และกรมทางหลวงซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาสัมปทาน

จากนั้น บริษัทฯ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาอิสระเพื่อประเมินการสูญเสียปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางของทางหลวงสัมปทานทั้งสองตอน ในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 ระยะเวลาประมาณ 2 ปี 6 เดือน ช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาอิสระประเมินว่าบริษัทสูญเสียปริมาณจราจรของทางหลวงสัมปทานทั้งสองตอนรวม 63,804,258 คัน คิดเป็นจำนวนเงินรายได้ค่าผ่านทางที่บริษัทสูญเสียไปรวม 4,297,787,290 บาท ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อฐานะทางการเงินของบริษัท 2,307,899,050 บาท (มูลค่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2565)

โดยบริษัทได้มีหนังสือนำส่งรายงานการศึกษาของที่ปรึกษาอิสระต่อกรมทางหลวงแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้รับการเยียวยาชดเชยจากกรมทางหลวง จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ