นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (23 พฤษภาคม 2568) ได้ลงพื้นที่ ที่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว ช่วงแยกต่างระดับบางขุนเทียน - เอกชัย บริเวณตั้งแต่ กม. ที่ 16 - 20 และศูนย์บริหารการจราจรระหว่างการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 35 กม. ที่ 27 อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2
สำหรับโครงการก่อสร้างช่วง ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน - เอกชัย ตอนที่ 1-3 และ ช่วงเอกชัย-บ้านเเพ้วสมุทรสาคร ตอนที่ 1-10 มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก
ล่าสุดมีความก้าวหน้าด้านโยธาแล้วกว่า 82% ใกล้เคียงแผนกำหนดไว้ ดังนั้นมั่นใจว่าโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2568 อย่างแน่นอน เพื่อให้การเดินทางของประชาชนมีความสะดวก ปลอดภัยตลอดเส้นทาง
ขณะนี้ได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โดยนอกเหนือจากอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยอื่น ๆ แล้ว ยังได้เพิ่มในส่วนของระบบตรวจสุขภาพโครงสร้างของคานเหล็กลำเลียง (SHM launching gantry) ซึ่งจะทำการตรวจจับ
หากโครงสร้างมีความผิดปกติ จะแจ้งเตือนไปยังผู้คุมงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเข้าตรวจสอบความผิดปกติทันที เพื่อต้องการยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และผู้ปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ดียังได้กำชับให้กรมทางหลวง (ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กำกับผู้รับเหมาให้จริงจังเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นหลัก
ทั้งในส่วนของคนงานก่อสร้างและประชาชนที่สัญจรบนท้องถนนต้องมีความปลอดภัย ไม่ควรมีเหตุการณ์ชิ้นส่วนใด ๆ ร่วงหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา ปัจจุบันร่างแก้ไขกฎกระทรวงฯ ที่จะทำให้มาตรการสมุดพกผู้รับเหมามีผลบังคับใช้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อ 8 เม.ย.68 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกรมบัญชีกลางได้จัดทำร่างแก้ไขระเบียบฯ ที่กำหนดกฎเกณฑ์และเงื่อนไขในการตัดแต้ม รวมถึงบทลงโทษการตัดสิทธิ์เข้าประมูลงานและการปรับลดชั้นผู้รับเหมา
ส่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุจากความบกพร่องและมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหรือทรัพย์สินเสียหาย เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว คาดว่ากระบวนการตามขั้นตอนที่เหลือจะแล้วเสร็จ และมีผลบังคับใช้ประมาณเดือน ก.ค. - ส.ค.68 นี้
ขณะที่มาตรการสมุดพกจะสามารถนำไปบังคับใช้สำหรับโครงการก่อสร้างใหม่เท่านั้น โดยไม่สามารถบังคับใช้กับโครงการเดิมที่มีการทำสัญญาไว้แล้วได้
ทั้งนี้ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานให้เข้าดูแลทุกโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลควบคุมงานตลอดเวลาให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด จนกว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามแผน
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว ช่วงแยกต่างระดับบางขุนเทียน - เอกชัย จำนวน 3 สัญญา มีความคืบหน้าแล้ว 100%
ส่วนช่วงเอกชัย - บ้านเเพ้ว จำนวน 10 สัญญา (ณ เดือนเมษายน 2568) มีความคืบหน้าแล้ว 78%
ทั้งนึ้ ช่วงเอกชัย - บ้านเเพ้ว จำนวน 10 สัญญานั้น (ณ เดือนเมษายน 2568) แบ่งเป็น ตอนที่ 1 คืบหน้า 79.55% ตอนที่ 2 คืบหน้า 83.71% ตอนที่ 3 คืบหน้า 90.27%
ตอนที่ 4 คืบหน้า 59.63% ตอนที่ 5 คืบหน้า 83.29% ตอนที่ 6 คืบหน้า 68.50% ตอนที่ 7 คืบหน้า 54.22% ตอนที่ 8 คืบหน้า 83.66% ตอนที่ 9 คืบหน้า 91.65% และตอนที่ 10 คืบหน้า 80.65%
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวต่อว่า ขณะที่โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความรับผิดชอบของกทพ.
ขณะเดียวกัน กทพ.คาดว่าทางต่างระดับบ้านแพ้วจะสามารถเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ภายในเดือนกันยายน 2568
ความก้าวหน้าภาพรวมอยู่ที่ 89.39% ซึ่งทุกสัญญางานด้านโยธาจะแล้วเสร็จภายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 และจะพิจารณาแนวทางในการเปิดให้ประชาชนใช้บริการต่อไป
นอกจากนี้ส่วนทางต่างระดับช่วงบางขุนเทียนที่เกิดเหตุถล่มและหยุดการก่อสร้างนั้นส่งผลให้โครงการบริเวณช่วงดังกล่าวมีความล่าช้าประมาณ 3 เดือนโดยคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในเดือนมีนาคม 2569