"ลาสเวกัส" เมืองทะเลทราย สู่มหานครบันเทิงโลก รายได้ 1 ล้านล้าน

06 พ.ค. 2568 | 23:58 น.

เปิดรายงานวุฒิสภา "ถอดบทเรียน" สถานบันเทิงครบวงจร 3 แห่ง ที่ลาสเวกัส จากเมืองทะเลทรายสู่รายได้กว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1 ล้านล้านบาท กับระบบจัดการเข้มงวด-นำรายได้พัฒนาเมือง

สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์: Entertainment Complex)

 

โดยหนึ่งในข้อมูลที่รวบรวมมีกรณีศึกษาที่น่าสนใจจาก "เมืองลาสเวกัส" รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้นแบบความสำเร็จของสถานบันเทิงครบวงจร

จากเมืองทะเลทราย-อาชีพทำเหมืองสู่เมืองแห่งความบันเทิง

 

ลาสเวกัส ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2448 เริ่มต้นเป็นเพียงเมืองทะเลทรายที่ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเหมืองหินและค้าขายทั่วไป

 

ทว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 90 เมื่อเมืองแห่งนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กาสิโนขนาดใหญ่ และเติบโตอย่างต่อเนื่องจนก้าวขึ้นมาเป็นเมืองแห่งสถานบันเทิงครบวงจรชั้นนำระดับโลกดังเช่นทุกวันนี้

3 สถานบันเทิงครบวงจรชั้นนำของลาสเวกัส

 

รายงานของวุฒิสภา ระบุว่า ลาสเวกัสเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจรหลายแห่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมกับยกตัวอย่าง 3 แห่ง

 

1. เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ลาสเวกัส (MGM Grand Las Vegas)

สถานบันเทิงครบวงจรขนาดใหญ่ที่ดำเนินการโดย MGM Resorts International ประกอบด้วยโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีห้องพักกว่า 5,000 ห้อง พื้นที่กาสิโนขนาด 171,000 ตารางฟุต ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ ไนต์คลับชื่อดัง และ MGM Grand Garden Arena สำหรับจัดแสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรมขนาดใหญ่

 

2. เดอะ เวเนเชียน รีสอร์ท ลาสเวกัส (The Venetian Resort Las Vegas)

โรงแรมที่จำลองบรรยากาศเมืองเวนิสแห่งอิตาลีมาไว้กลางทะเลทราย ภายในประกอบด้วยโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ไนต์คลับ พื้นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรม สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สปาสุดหรู พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ คลองเวนิสจำลองทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมทั้งกาสิโนระดับโลก

 

3. โรงแรมเวอร์จิ้น ลาสเวกัส (Virgin Hotel Las Vegas)

สถานบันเทิงครบวงจรในเครือเวอร์จิ้น ซึ่งบริหารโดยเครือโรงแรมฮิลตัน ประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ตหรู สระว่ายน้ำและสปา ร้านค้าต่างๆ โรงละครขนาดใหญ่ความจุ 4,600 คน ลานกิจกรรมกลางแจ้งบนพื้นที่กว่า 13,000 ตารางฟุต ผับ บาร์ ร้านอาหารนานาชาติ ศูนย์จัดประชุม และกาสิโนขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบรองรับนักเสี่ยงโชคจากทั่วโลก

 

การกำกับดูแลที่เข้มงวด กุญแจสู่ความสำเร็จ

 

ข้อมูลจาก สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ระบุด้วยว่า การบริหารจัดการเรื่องกาสิโนของเมืองลาสเวกัสมีความโดดเด่นในเรื่องการกำกับดูแลที่เข้มงวด โดยมีการจัดตั้ง "คณะกรรมการตรวจสอบความโปร่งใสของเกมพนัน" หรือ Nevada Gaming Commission (NGC) ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ ได้แก่

 

  1. ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเกมพนันในแต่ละกาสิโนเพื่อควบคุมความยุติธรรมและป้องกันการโกงลูกค้า
  2. ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจกาสิโนและคัดกรองผู้มีประวัติอาชญากรรม
  3. ควบคุมอย่างเข้มงวดไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่บริเวณกาสิโน
  4. บังคับให้ลูกค้าศึกษากฎกติกาในการเล่นอย่างละเอียดและชี้แจงถึงโทษของการพนันอย่างชัดเจน
  5. ปราบปรามอาชญากรรม เช่น การฟอกเงิน

 

ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง

 

จากการศึกษาข้อมูลของ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พบว่า เมืองลาสเวกัสสามารถสร้างรายได้จากสถานบันเทิงครบวงจรสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1,050,000 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ Nevada Gaming Commission ยังมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรรายได้จากการเปิดกาสิโนให้เกิดประโยชน์ต่อโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ทั้งถนน สวนสาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการศึกษา

 

ปัจจุบัน ลาสเวกัสได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งความบันเทิงของโลก" เนื่องจากเป็นศูนย์กลางความบันเทิง สวนสนุกขนาดใหญ่ และการจัดประชุมนานาชาติทั้งภาครัฐและภาคเอกชน แสดงให้เห็นว่ารายได้หลักของเมืองมาจาก 3 แหล่งสำคัญ ได้แก่ กาสิโน การท่องเที่ยว และการจัดประชุมระดับโลก

 

 

ที่มาข้อมูล - เอกสารประกอบการพิจารณาญัตติ เรื่อง “ขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) โดยสำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา