KEY
POINTS
ที่ผ่านมาร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯสมัยรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติหลักการแล้ว และเสนอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 พิจารณาในวาระที่ 1 มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ เห็นด้วยถึง 250 เสียง แต่ปิดสภาไปก่อน ส่งผลให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ทันการพิจารณา เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สำหรับความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... นั้น เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งเป็นร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจพิจารณาแล้ว
ขณะเดียวกันตามขั้นตอนจะต้องนำร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาฯ โดยร่าง พรบ.ฉบับนี้ได้ผ่านชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... ได้ดำเนินการพิจารณาแล้วเสร็จในการประชุมครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณารับรองรายงานการประชุมก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 เมื่อการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเสร็จสิ้น จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของวุฒิสภาทั้ง 3 วาระ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ คาดว่าพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... จะประกาศใช้ในปลายปี 2568
นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า หากร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ มีผลบังคับใช้แล้ว ส่งผลให้สามารถควบคุมค่าโดยสารและพัฒนาระบบตั๋วร่วมได้ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนโดยใช้โครงข่ายทางรถไฟได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของกรมฯ ปัจจุบันกรมฯอยู่ในขั้นตอนเตรียมการ เพื่อหารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คาดว่าจะได้ข้อสรุปในส่วนนี้ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 ก่อนประกาศใช้แผนดังกล่าวต่อไป
“ดังนั้น ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯฉบับใหม่ จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบรางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการบูรณาการระบบตั๋วโดยสารและการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้โครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ของร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯจะมีประโยชน์หลัก 2 ประการ คือ 1.ไม่มีการเก็บค่าแรกเข้าในการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าที่ซ้ำซ้อนกัน 2.การใช้ระบบบัตรโดยสารแบบเดียวกัน” นายพิเชฐ กล่าว
อย่างไรก็ดียืนยันว่าการประกาศใช้ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ ในช่วงปลายปี 2568 ที่ไม่อาจไม่ทันต่อมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ที่มีเป้าหมายดำเนินการภายในเดือนกันยายนนี้ จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากในปัจจุบันค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ได้นำร่องในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ และรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตและช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ยังสามารถดำเนินการได้โดยอยู่ภายใต้กฎหมายเดิมที่มีในปัจจุบัน
สำหรับสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ มี 10 หมวด165 มาตรา สาระสำคัญ กำหนดให้มี “คณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางราง” ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการขนส่งทางราง โครงการของหน่วยงานรัฐในการประกอบกิจการขนส่งทางรางและแนวทางในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นที่ได้รับประโยชน์จากการประกอบกิจการขนส่งทางราง
ขณะเดียวกันยังมีการกําหนดให้มีการจัดทำโครงการขนส่งทางราง ประกอบด้วย1.การจัดทำแผนพัฒนาการขนส่งทางรางเพื่อประโยชน์ ในการกำหนดแนวเส้นทางเพื่อประกอบการจัดทำแผนพัฒนาการขนส่งทางราง
2. การเสนอโครงการการขนส่งทางราง โดยแยกเป็นกรณีรถไฟและรถไฟฟ้า ให้จัดทำรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการและรายงานผล การศึกษาวิเคราะห์โครงการเสนอต่อคณะกรรมการ และกรณีรถรางให้จัดทำรายงานผลการศึกษาวิเคราะห์โครงการ เสนอต่อผู้มีอำนาจกำกับดูแลตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทยและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นชอบแล้วเสนอต่อคณะกรรมการ โดยโครงการใดที่มีเอกชนร่วมลงทุน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
3.การดำเนินการโครงการการขนส่งทางราง โดยกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือ ก่อให้เกิดภาระในอสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินการตามแผนพัฒนาการขนส่งทางราง กำหนดเขตระบบรถขนส่งทาง รางและเขตปลอดภัยระบบขนส่งทางรางโดยกำหนดเงื่อนไขการก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ในเขตปลอดภัยระบบรถขนส่งทางราง รวมทั้งกำหนดข้อห้ามกระทำการใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือเป็นอุปสรรค ต่อการขนส่งทางราง
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดประเภทของใบอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางราง โดยมี 3 ประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่ง ,ใบอนุญาตประกอบกิจการเดินรถขนส่งทางราง และใบอนุญาตประกอบกิจการรางเพื่อการขนส่งและการเดินรถขนส่งทางราง โดยกำหนดหน้าที่ให้ผู้ประกอบกิจการขนส่งทางรางใน การจัดให้มีประกันความเสียหาย หน้าที่ในการแจ้งเหตุที่จะทำให้การเดินรถขนส่งทางรางหยุดชะงัก เหตุฉุกเฉิน หรืออุปสรรคต่อการขนส่งทางราง
อย่างไรก็ตามยังมีการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเวลาการเดินรถขนส่งทางราง และไกล่เกลี่ยข้อ ขัดแย้งที่เกี่ยวกับการจัดสรรเวลาการเดินรถขนส่งทางรางและกําหนดให้มีคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและ อุบัติการณ์ของการขนส่งทางรางมีหน้าที่และอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การสอบสวนอุบัติเหตุ อุบัติเหตุร้ายแรง และ อุบัติการณ์ ตลอดจนกําหนดให้มีผู้ตรวจการขนส่งทางรางมีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบการประกอบกิจการขนส่งทางราง ฯลฯ
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,090 วันที่ 24 - 26 เมษายน พ.ศ. 2568