“รฟท.” เปิดยอดนั่งรถไฟเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ พุ่ง 2.8 แสนคน

20 ก.พ. 2568 | 08:58 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.พ. 2568 | 09:07 น.

“การรถไฟฯ ไทย-ลาว” จับมือ MOU ดันเทคนิคขนส่งผู้โดยสาร เผยยอดผู้โดยสารเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) 6 เดือน พบผู้ใช้บริการแตะ 2.8 แสนคน กระตุ้นเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า พิธีลงนามบันทึกการดำเนินการด้านเทคนิค สำหรับการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟ” ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว สปป.ลาวนั้น

สำหรับการลงนามบันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟระหว่าง ไทย กับ สปป. ลาว ถือเป็นการสานความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนานและแน่นแฟ้น ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบรางให้เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมสำหรับรองรับการให้บริการประชาชน รวมถึงกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างกัน 
 

นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกันในอีกหลาย ๆ ด้าน โดยไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสมให้กับพนักงานของ สปป.ลาว และพร้อมอำนวยความสะดวก จุดเข้า - ออกของขบวนรถไฟ ซึ่งกำหนดให้เป็นสถานีหนองคายและสถานีท่านาแล้ง

ขณะเดียวกันรวมถึงการจัดเตรียมรถจักรและล้อเลื่อน พนักงานในการเดินรถโดยสาร การแบ่งรายได้จากการเดินรถโดยสาร การปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบการเดินรถ การให้ความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และการชำระบัญชีสำหรับการเดินรถโดยสาร ซึ่งจะทำให้การบริการระบบรางมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  

“รฟท.” เปิดยอดนั่งรถไฟเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ พุ่ง 2.8 แสนคน

ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟระหว่างไทย และ สปป.ลาว ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้การตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
 

 ทั้งนี้จากสถิติผู้โดยสาร ขบวน 133/134 กรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-กรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 67 - ม.ค. 68 มีผู้โดยสารใช้บริการ 288,700 คน แสดงให้เห็นถึงความนิยมในการเดินทางด้วยรถไฟของประชาชนที่มากขึ้น 

“รฟท.” เปิดยอดนั่งรถไฟเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ พุ่ง 2.8 แสนคน

อย่างไรก็ตามการรถไฟฯ จะเดินหน้าพัฒนาการคมนาคมด้วยรถไฟอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ความประทับใจ และทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน