นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) เปิดเผยว่า กกท. ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท เย่ห์กรุ๊ป จำกัด เจ้าของนวัตกรรม “drydye” ที่สามารถย้อมผ้าโดยไม่ใช้น้ำ ถือเป็นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองกับนโยบาย BCG Model ในการทำยูนิฟอร์มใหม่ของ กกท.
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกผู้มีส่วนร่วมทางการกีฬา อาทิ ผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์การกีฬา ผู้จัดการกีฬา และสาธารณชน ให้เกิดพฤติกรรมภายใน ได้แก่ การมีน้ำใจนักกีฬา เพื่อรักษ์สิ่งแวดล้อม เห็นความสำคัญและคุณค่าของทรัพยากรที่ใช้ในกิจกรรมกีฬา โดยสามารถนำทรัพยากรไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น ได้กำหนดนโยบายโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Bio – Circular – Green Economy: BCG Model) ซึ่งประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการการท่องเที่ยวและกีฬาสีขาว เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นายวุฒิพงศ์ เย่ ประธานกลุ่มธุรกิจเย่ห์กรุ๊ป กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการสนับสนุน กกท. คือแนวคิด BCG ของกกท.ที่ต้องการเป็น Circular และGreen Economy ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางธุรกิจของเย่ห์กรุ๊ป และ drydye ซึ่งเป็นนวัตกรรมแรกของโลกที่สามารถย้อมผ้าโดยไม่ต้องใช้น้ำเป็นการประหยัดค่าพลังงาน ค่าสี ค่าเคมี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องบำบัดน้ำเสีย เพราะนวัตกรรมดังกล่าวใช้คาร์บอนไดออกไซด์( CO2)ในการย้อมผ้าโดยสามารถรีไซเคิล CO2กลับมาใช้อีก ทั้งหมดนี้คือกระบวนการที่ภาคธุรกิจทำได้ ซึ่งตรงกับแนวนโยบาย SDGs หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ 17 เป้าหมายซึ่งมีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ 7 ข้อซึ่งสามารถทำได้ อาทิ เรื่องน้ำ อากาศเสีย สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี 2012 ในกิจกรรมกีฬาไทยตอนนี้เย่ห์กรุ๊ปและ drydye ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในThai Run ทั้งหลาย เช่น Park Run ของ TTB งาน KU Run ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Chula Run ของจุฬาฯ หลังจากเติบโตในต่างประเทศโดยเข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิกและงานวิ่งระดับโลก
นายวุฒิพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอถูกมองว่าเป็น Sunset Industry มาโดยตลอด และยังเป็นที่รังเกียจของสังคมเพราะเดิมทำให้เกิดน้ำเสีย ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้อุตสาหกรรมสิ่งทอต้องย้ายฐานการผลิตออกจากไทย
แต่หากศึกษาให้ละเอียดจะพบว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอมีต้นทุนด้านแรงงานแค่ 15% อีก 85% คือวัตถุดิบ สีเคมี ดังนั้นถ้าเราสามารถรีไซเคิลกระบวนการผลิตได้ อุตสาหกรรมสิ่งทอจะไม่ใช่ Sunset จะสามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆในการผลิตสินค้าคุณภาพด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้
“หากสู้กับ Sunset Industry ด้วยต้นทุนมีแต่ตาย แต่ถ้าสู้ด้วยนวัตกรรมเราสามารถจะควบคุมต้นทุนได้ เรามีเป้าหมายว่าจากปี 2025-2040 จะพยายามลดต้นทุนด้วยการลดการใช้น้ำให้เป็นศูนย์ภายในปี 2040”