ครม. เคาะเกณฑ์ปริมาณยาเสพติดไม่เป็นความผิดร้ายแรง รับการรักษาแทนจำคุก

09 ส.ค. 2565 | 08:25 น.

ครม. อนุมัติหลักการกำหนดปริมาณยาเสพติดในแต่ละชนิด ถ้าไม่เกินปริมาณที่กำหนดให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า มีไว้ครอบครองเพื่อเสพ ไม่ถือเป็นโทษความผิดร้ายแรง เข้ารับการบำบัดรักษาแทนการรับโทษจำคุก

9 สิงหาคม 2565 นางสาวไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. .... 

 

สาระสำคัญ เป็นการกำหนดปริมาณยาเสพติดเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้โอกาสแก่ผู้เสพยาเสพติดที่ครอบครองยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ไว้เพื่อการเสพ โดยไม่ถือเป็นโทษความผิดร้ายแรงและพิจารณาให้รับการบำบัดรักษาแทนการรับโทษจำคุก

สำหรับรายละเอียดการกำหนดปริมาณยาเสพติด ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อการเสพ ได้แก่ 

 

ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เช่น

  • เฮโรอีน น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 300 มิลลิกรัม
  • เมทแอมเฟตามีน ปริมาณไม่ถึง 15 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึง 1.5 กรัม หรือคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ไม่ถึง 375 มิลลิกรัม
  • แอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ปริมาณไม่ถึง 15 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิ ไม่ถึง 1.5 กรัม 

 

ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เช่น

  • โคคาอีน น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 600 มิลลิกรัม
  • ฝิ่นยา น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 15 กรัม  

 

ยาเสพติดให้โทษประเภท 5

  • น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 135 กรัม  

วัตถุออกฤทธิ์ ประเภท 1 เช่น

  • คาทิโนน คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 0.5 กรัม
  • ไซโลซีน ไม่เกิน 0.1 กรัม
  • ไซโลไซบีน ไม่เกิน 0.1 กรัม  

วัตถุออกฤทธิ์ ประเภท 2 เช่น

  • คีตามีน คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 0.5 กรัม
  • ซูโดอีเฟดรีน ไม่เกิน 5 กรัม
  • ไนตราซีแพม ไม่เกิน 0.3 กรัม