KEY
POINTS
“ก๊าซหุงต้มครัวเรือน” กำลังจะสิ้นสุดระยะเวลบาการตรึงราคา 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) วันที่ 30 ก.ย. 68 ตามมติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)
ทั้งนี้ คำถามสำคัญก็คือ จะมีการต่ออายุการตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือนต่อไปอีกหรือไม่ เพราะปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงรอยต่อของรัฐบาล รอการรับตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่อย่างเป็นทางการ
และการแถลงนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภาฯ โดยเรื่องดังกล่าวถือว่ามีผลต่อค่าครองชีพของประชาชน
ต่อกรณีดังกล่าวนายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หากพิจารณาจากแนวโน้มของราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือแอลพีจี (LPG) ในตลาดโลก ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าโอกาสที่จะไม่มีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือนหลังสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวมีสูง
ทั้งนี้ น่าจะตรึงราคาไว้ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กก. ไว้เท่าเดิม แต่ก็ต้องรอดูภาพรวมของนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ และรมว. พลังงานคนใหม่ด้วยว่าจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร
“หากถามถึงความคิดเห็นส่วนตัว มองว่าด้วยรอบของการพิจารณาราคาทุก 3 เดือนล่าสุดที่จะถึงนี้ ยังไม่เข้าสู่ฤดูหนาวในต่างประเทศอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้น จึงคาดว่าน่าจะสามารถตรึงราคาไว้ที่เท่าเดิมได้”
อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาที่ LPG ตลาดโลกจะมีผลกระทบต่อราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือนได้ อาจจะเป็นรอบพิจารณาหลังจากนั้นในช่วงปีใหม่ (ม.ค.-มี.ค. 69) ซึ่งจะตรงกับช่วงฤดูหนาวของต่างประเทศ
ส่วนกรณีที่ สกนช. ประกาศปรับเพิ่มอัตราชดเชยราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หรือก๊าซหุงต้มขึ้นเป็น 0.3783 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 0.232 บาท/กก. จากเดิมชดเชยอยู่ 0.1463 บาท/กก. มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2568 เป็นต้นไป เพื่อคงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มขนาดบรรจุถัง 15 กก.ไว้เท่าเดิมที่ 423 บาท ถึงวันที่ 30 ก.ย.2568 หลังจากนั้นต้องรอ กบง. พิจารณาต่อไป นั้น ไม่มีผลต่อการพิจารณาต่ออายุมาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือนแต่อย่างใด
โดยเป็นการออกประกาศตามปกติเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ (16-29 ก.ย. 69) เพื่อให้ราคาขายปลีกเท่ากับที่ กบง. กำหนดไว้ ซึ่งมาจากการที่ราคา LPG หน้าโรงกลั่นขยับขึ้นเล็กน้อยประมาณ 52 สตางค์